Wonderfruit 99 ชั่วโมง Non-Stop เทศกาลศิลปะ ดนตรี ธรรมชาติ ยิ่งใหญ่ในเอเชีย
Wonderfruit กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ที่ The Fields สยามคันทรีคลับ ชลบุรี กับงานที่รวบรวมศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี และธรรมชาติมาไว้ในที่เดียว ปีนี้นับเป็นปีที่ 9 แล้ว ระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคม 2567 ว่าแต่ ทำไม Wonderfruit จึงเป็นประสบการณ์สุดพิเศษของผู้คนในยุคนี้
เทศกาล Wonderfruit เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2557 และได้พัฒนาจนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มทางวัฒนธรรมและชุมชนที่มีการดำเนินการตลอดทั้งปี ปีนี้คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 30,000 คน จากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก หมายความว่า Wonderfruit ได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก และอาจทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญในเอเชีย
Wonderfruit มีอะไรทำไมคนจากทั่วโลกมากันมากมาย?
การเติบโตและความหลากหลายของเทศกาล Wonderfruit ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาสะท้อนพลังของ Soft Power ด้านศิลปะวัฒนธรรมที่สามารถดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้ยืดระยะเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทย และสร้างชุมชนของผู้คนหลากหลายในโลกดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม หลายรุ่น หลายเชื้อชาติ ที่ล้วนให้ความสำคัญกับศิลปะวัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างแท้จริง และอาจทำให้พื้นที่อย่างจังหวัดชลบุรีกลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอีกแห่งในเอเชียได้ไม่ยาก
Wonderfruit 2024 จะจัดขึ้นต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วัน เพื่อเปิดประสบการณ์ 99 ชั่วโมง แห่งศิลปะ ดนตรี สุขภาพกายใจที่ดี สถาปัตยกรรม และอาหาร ผู้เข้าร่วมงานในปีนี้จะได้สัมผัสกับโซนการจัดงานมากกว่า 40 โซน การแสดงดนตรีมากกว่า 300 รายการ เมนูอาหารมากกว่า 130 เมนู เวิร์กช็อปและกิจกรรมด้านสุขภาพมากกว่า 90 รายการ และอื่นๆ อีกมากมายภายใน The Fields
ที่น่าสนใจอีกข้อคือ เทศกาล Wonderfruit ได้รับการรับรองว่าเป็นงานมหกรรมที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-neutral) ตั้งแต่ปี 2560 และไม่อนุญาตให้ใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมทั้งสนับสนุนการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างแพร่หลาย
ไม่น่าแปลกใจหากจะมีใครสักคนบอกว่า Wonderfruit เป็นเหมือนพื้นที่พักพิงทางจิตวิญญาณของผู้คนยุคนี้ ที่ยังมองหาพื้นที่ผ่อนคลาย พักกายใจในโลกของศิลปะการใช้ชีวิต
ไฮไลต์ในปี 2024
- หมู่บ้านหมอลำ (Molam World)
ปีนี้หมู่บ้านหมอลำได้ถูกขยายเป็น Molam World โดยให้ผู้ร่วมงานได้สำรวจ Theatre of Eats อาหารเลิศรสจากร้านอาหารท้องถิ่นในบรรยากาศของตลาดกลางคืน, ฟาร์มหอคอยรูปแบบใหม่, รถบัสหมอลำ และแกลเลอรีจากจิม ทอมป์สัน
ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสการแสดงหมอลำและการแสดงระดับโลกที่คัดสรรโดย Maft Sai จาก ZudRangMa Records รวมถึงกิจกรรมศิลปะหลากหลายรูปแบบ อาทิ เวิร์กชอปการทำเครื่องดนตรีพิณ กับครอบครัว Kammao และ Phinprainn
- พื้นที่สุขภาพกายใจ (Wonderness)
100 กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถทดลองและเพลิดเพลินไปกับโซนต่างๆ อาทิ Bath House, Unconditional Space, Ancestral Forest และเคบิน Slow Wonder
- เสียงแห่งอนาคต(Sonic Minds)
วันเดอร์ฟลุ๊ต ร่วมกับ MSCTY Studio โดย Sonic Minds กิจกรรมครั้งนี้เป็นการพัฒนาต่อยอดจากโครงการก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ให้กับเหล่าวันเดอร์ฟลุ๊ตได้สำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องเสียงแห่งอนาคต พื้นที่ สุขภาพกายใจ และสุขภาวะความเป็นอยู่ที่ดี
โครงการทดลองได้เริ่มขึ้นในค่ายพิเศษเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะดำเนินต่อไปตลอดทั้งเทศกาล หลังจากนั้น Sonic Minds จะมีการจัดแสดงกิจกรรมที่ Enfold, Polygon Live และ Ancestral Forest ในงานครั้งนี้มีการเก็บเสียงจากค่ายมาเป็นแกนหลักของโครงการ
- ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่า (Rewilding Project)
ปีนี้ทีมงานได้ปลูกต้นไม้พื้นถิ่นกว่า 30,000 ต้น โดยใช้เทคนิคการปลูกและการฟื้นฟูป่าที่หลากหลายตั้งแต่ปี 2565 และผู้เข้าร่วมงานสามารถร่วมปลูกต้นไม้ได้อีก 1,000 ต้น เพื่อสร้างระบบนิเวศใน The Fields
นอกจากนี้ The Farm ในอนาคตของวันเดอร์ฟลุ๊ต ก็จะขยายตัวให้ความสำคัญกับพืชที่มีคุณค่าในการใช้งานและทางยา ซึ่งสามารถนำมาใช้ทั้งในเวิร์กช็อปและเพิ่มประสบการณ์การกินอาหาร
- วิถีการกิน(Dining Experiences in The Fields)
เชฟ Dylan Eitharong จาก Haawm และเชฟปริญญ์ ผลสุข จากสำรับสำหรับไทย และLady GooGoo จะมาสร้างประสบการณ์การกินในรูปแบบอาหารเป็นยา และวิถียั่งยืน รวมถึงการทำครัวเปิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากครัวของแม่ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะเพลิดเพลินกับสูตรอาหารแบบครอบครัวที่สืบทอดกันมาใน Open Kitchen ที่มองเห็นวิว The Fields ได้
- ดนตรีรูปแบบใหม่ (A Diverse Exploration of Sound:)
Bottlesmoker x Modern Biology จะสร้างสรรค์ดนตรีผ่านการเชื่อมต่อเข้ากับธรรมชาติและเห็ด นอกจากนั้น Polygon Live จะมีการออกแบบใหม่ให้มีเสียงรอบทิศทาง
กิจกรรมนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Photay และ Tuvan Huun-Huur-Tu ขณะที่ Creature Stage มีการแสดง Autobiography (v104) ของ Wayne McGregor ที่ร่วมกับ Jlin นิยามการออกแบบท่าเต้นใหม่ โดยรวมการถอดรหัส DNA บันทึกความทรงจำส่วนตัว และปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ Forbidden Fruit สถานที่บนเนินลาดที่มีสระบัว เหล่า Wonderers สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน และเต้นรำใต้แสงดาว
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.wonderfruit.co