posttoday

อายุ 45 ปีต้องระวัง! เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ คร่าชีวิต 15 คนต่อวัน

02 ธันวาคม 2567

แพทย์เตือน ผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไปหรือมีสมาชิกในครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ต้องรีบคัดกรอง หลังพบคนไทยเสียชีวิตเฉลี่ย 15 รายต่อวัน

จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์  พบว่าทุกวันนี้มีคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่เฉลี่ย 15 คนต่อวันหรือปีละกว่า 5,476 คน และมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นถึงปีละ 15,000 คน 

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของ "มะเร็งลำไส้ใหญ่" โรคร้ายที่มักเจอตอนที่มีอาการหนักแล้ว เพราะบ่อยครั้งที่กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวก้อนเนื้อในลำไส้ก็ใหญ่มากจนทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหา ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นอุจจาระเป็นเลือด 

พญ.สาวินี จิริยะสิน แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ รพ.วิมุต ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ พร้อมแนะนำการปรับไลฟ์สไตล์เพื่อป้องกันโรคง่าย ๆ และย้ำเตือนถึงความสำคัญในการตรวจคัดกรองเพื่อหาสัญญาณของโรคก่อนพบเนื้อร้ายในวันที่สาย

 

พญ.สาวินี จิริยะสิน

 

  • ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในลำไส้ ทำให้เกิดติ่งเนื้อเล็ก ๆที่โตขึ้นจนทำให้ลำไส้ตีบ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายผิดปกติโดยมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม เพราะหากคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อหรือแม่ มีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ เราจะเสี่ยงเป็นเช่นเดียวกัน 

ปัจจัยที่สองคืออายุ แน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้นความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น ปัจจัยที่สามคืออาหารและไลฟ์สไตล์เช่น ชอบกินอาหารแปรรูปบ่อย ๆ ไม่กินอาหารที่มีกากใย ไม่ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ซึ่งเสี่ยงทำให้ท้องผูก รวมถึงพฤติกรรมอย่างการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 

ปัจจัยสุดท้ายคือผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease - IBD) ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่เช่นกัน

 

  • ถ่ายเป็นเลือด สัญญาณของมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็งลำไส้ใหญ่ทำให้ขับถ่ายผิดปกติ ดังนั้นอาการที่สังเกตได้ชัด ได้แก่ ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระลำเล็กลงหรือเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายกระสุน ถ่ายเป็นเลือดเนื่องจากก้อนมะเร็งเกิดแผลและมีเลือดออก นอกจากนี้ยังมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด คล้ายกับอาการของมะเร็งอื่น ๆ ร่วมด้วย พญ.สาวินี จิริยะสิน เล่าต่อว่า 

"สิ่งที่น่ากังวลคือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแรกจะไม่แสดงอาการเลย กว่าเราจะรู้ตัวก็มักจะมีอาการหนัก เพราะก้อนเนื้อในลำไส้โตมากแล้ว หัวใจสำคัญในการป้องกันคือควรมาตรวจคัดกรองตั้งแต่ยังไม่มีอาการ โดยเฉพาะในผู้ที่อายุ 45 ปีขึ้นไป”

 

  • ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ตรวจคัดกรองมะเร็งได้แม่นยำที่สุด

ปัจจุบันมีวิธีตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่หลายวิธีได้แก่ การตรวจเม็ดเลือดแดงแฝงในอุจจาระ (Fecal Occult Blood Test - FOBT) การตรวจเลือดหาค่าบ่งชี้มะเร็งลำไส้ CEA (Carcinoembryonic Antigen) และการตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Colonography) แต่ทุกวิธีอาจมีความไวและความจำเพาะไม่มากพอที่จะตรวจหาติ่งเนื้อขนาดเล็กในลำไส้ใหญ่หรือหากตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบติ่งเนื้อก็จำเป็นต้องส่องกล้องเพื่อตัดออกอยู่ดี ดังนั้นการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบันคือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพราะตรวจเจอติ่งเนื้อขนาดเล็กได้ และถ้าเจอติ่งเนื้อก็สามารถตัดออกได้ทันที  พญ.สาวินี จิริยะสิน อธิบายเสริม 

 

"คนส่วนมากเวลาได้ยินถึงการส่องกล้องก็จะกังวลว่ามันจะเจ็บและอันตราย แต่จริง ๆ แล้วการส่องกล้องลำไส้ใหญ่นั้นปลอดภัยมาก ใช้เวลาไม่นาน ความเสี่ยงต่ำ และแม่นยำที่สุด การเตรียมตัวก่อนการส่องกล้องก็ไม่ยุ่งยาก แค่งดอาหารที่มีไฟเบอร์จำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืช ทานยาระบาย และดื่มน้ำมาก ๆเพื่อล้างลำไส้ใหญ่ เวลาตรวจก็มีการให้ยาระงับความรู้สึกทำให้ไม่เจ็บ และไม่รู้สึกตัวขณะที่ส่องกล้อง หลังส่องกล้องอาจมีอาการแน่นท้องได้ เนื่องจากมีการเป่าลมเข้าไประหว่างส่องกล้อง ซึ่งอาการจะหายเองภายใน 24ชั่วโมง การตรวจใช้เวลาประมาณ 30 นาที ระหว่างการตรวจหากพบติ่งเนื้อระหว่างการตรวจ แพทย์สามารถตัดออกและนำไปวินิจฉัยต่อได้ทันที เครื่องมือทางการแพทย์ปัจจุบันมีความทันสมัย อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการส่องกล้องไม่น่ากลัว ไม่เจ็บ และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง"

 

  • ใครเสี่ยงต้องรีบคัดกรอง

พญ.สาวินี จิริยะสิน อธิบายว่า "มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคอันตรายที่สังเกตได้ยาก เพราะกว่าจะมีอาการก้อนเนื้อมะเร็งก็โตมากแล้ว ส่วนคนที่อยากลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็ทำได้ง่าย ๆด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ เริ่มจากทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น งดอาหารแปรรูปซึ่งอาจมีสารก่อมะเร็ง หันมาออกกำลังกายและทำกิจกรรมที่เพิ่มการเคลื่อนไหวของร่างกาย 

รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ที่สำคัญต้องมาตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ 

ส่วนใครที่อายุ 45 ปีขึ้นไป ก็ควรมาตรวจคัดกรองด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่แม้จะยังไม่มีอาการ หากปกติแนะนำตรวจคัดกรองทุก 10 ปี 

สำหรับคนที่มีญาติสายตรงลำดับหนึ่ง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นโรคนี้ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยแนะนำมาส่องกล้องตั้งแต่อายุ 40 ปีหรือ 10 ปีก่อนหน้าที่ญาติอายุน้อยที่สุดได้รับการวินิจฉัย เช่น ถ้าพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อายุ 45 ปี ลูกควรส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ตอนอายุ 35 ปี อยากย้ำว่าส่องกล้องไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และการพบเจอโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้รักษาทันก่อนจะสายเกินแก้" พญ.สาวินี จิริยะสิน กล่าวทิ้งท้าย

 

อายุ 45 ปีต้องระวัง! เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ คร่าชีวิต 15 คนต่อวัน

ขอขอบคุณ

ข้อมูลจาก โรงพยาบาลวิมุต