Sprayhawk กล้าขึ้นหรือไม่? เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ
หลายท่านอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับมาไม่น้อย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับภาคการเกษตร Sprayhawk ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานจาก FAA เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อพูดถึงยานยนต์อัตโนมัติ สิ่งแรกที่ทุกท่านคิดถึงอาจเป็นรถยนต์ไร้คนขับ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจพัฒนาจากรอบด้านจนเริ่มมีการเปิดทดลองใช้ตามพื้นที่ต่างๆ และด้วยข้อจำกัดในหลายด้านทำให้ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดบริการให้ใช้งานเป็นวงกว้าง
แต่ทางฝั่งของอากาศยานอาจแซงไปล่วงหน้า เมื่อเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับกำลังจะถูกนำมาใช้งานจริง
Sprayhawk เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับสำหรับภาคการเกษตร
ผลงานนี้เป็นของบริษัท Rotor Technologies กับความสำเร็จในการพัฒนา Sprayhawk เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับที่สามารถทำการบินตามเส้นทางที่กำหนดอัตโนมัติ ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางการเกษตร โดยเฉพาะการฉีดพ่นปุ๋ยและยาฆ่าแมลงภายในพื้นที่เกษตรกรรม
Sprayhawk ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยอาศัยโครงสร้างของเฮลิคอปเตอร์ Robinson R44 เป็นต้นแบบ โดยทำการถอดเบาะที่นั่งแทนที่ด้วยระบบสื่อสาร ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบเพิ่มเสถียรภาพการบิน พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์อีกหลายชนิดตั้งแต่ GPS, LiDAR, Motion sensor และกล้องอีก 5 ตัว เพื่อให้รับรู้สภาพแวดล้อมอย่างแม่นยำ
ข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์และกล้องที่ติดตั้งจะถูกนำมาประมวลผล ตั้งแต่ภาพที่ได้รับจากกล้องวีดีโอรวมถึงข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งหมดจะถูกแสดงสถานะของตัวเครื่องและการทำงานกลับมายังศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ พร้อมช่องทางบังคับระยะไกลกรณีประสบปัญหาหรือเกิดความผิดปกติ
ปัจจุบัน Sprayhawk ได้รับการติดตั้งระบบฉีดพ่นละอองน้ำได้ไกล 10 เมตร สามารถบรรทุกของเหลวได้สูงสุด 415 ลิตร พร้อมคุณสมบัติที่ช่วยให้สามารถฉีดพ่นครอบคลุมพื้นที่กว่า 600 ไร่/ชั่วโมง จัดเป็นเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับที่มีขนาดและความจุสูงสุดลำหนึ่งของโลก
Sprayhawk จึงเป็นเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางการเกษตรได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับในภาคการเกษตร
เมื่อพูดถึงระบบอัตโนมัติย่อมนำไปสู่ข้อกังวลด้านการแทนที่ตำแหน่งงานของมนุษย์ โดยเฉพาะเครื่องบินฉีดพ่นยาฆ่าแมลงที่ถือเป็นแรงงานหลัก แต่ทางบริษัทเชื่อว่าการเข้ามาของเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับจะช่วยสนับสนุนการทำงาน เพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตได้มากกว่า
พื้นฐานของการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงจำเป็นต้องทำในฤดูเพาะปลูก แม้รายได้ดีแต่ด้วยช่วงเวลาการทำงานที่ค่อนข้างสั้นเพียงไม่กี่เดือนต่อปี อีกทั้งต้องทำการบินในระดับความสูง 3 เมตร เป็นเวลาราว 10 – 12 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูงนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ทุกปี
ชั่วโมงการทำงานที่มากทำให้นักบินต้องฉีดพ่นและสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรเป็นเวลานาน ทำให้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การเข้ามาของเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับจึงไม่ใช่การเข้ามาแย่งงาน แต่เป็นการเข้ามารับงานที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อนักบิน
ในการฉีดพ่นสารเคมีทางการเกษตรโดรนจัดเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความสนใจเช่นกัน แต่โดรนส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดในด้านขนาด ความจุ และแบตเตอรี่น้อยกว่าทำให้มีระยะครอบคลุมต่ำ สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่กินบริเวณกว้างการใช้โดรนจึงอาจไม่ครอบคลุม เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับจึงตอบโจทย์กว่า
Sprayhawk จะช่วยสนับสนุนการฉีดพ่นพื้นที่ทางการเกษตรขนาดใหญ่ สามารถทำงานในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางน่านฟ้า เช่น ต้นไม้ สายไฟ หรือกังหันลมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกำหนดพื้นที่และขอบเขตการปฏิบัติงานจากหน้าจอ เพื่อให้สามารถฉีดพ่นสารเคมีลงบนพื้นที่ที่ต้องการได้แม่นยำ
สำหรับข้อกังวลด้านอาการหลอนของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ จริงอยู่เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับอาจนำไปสู่อันตรายแบบเดียวกับรถยนต์อัตโนมัติ แต่คาดว่า Sprayhawk จะก่อปัญหาให้น้อยกว่า เนื่องจากพื้นที่ปฏิบัติการจะอยู่ในพื้นที่ทางการเกษตรและชนบทที่เส้นทางเปิดโล่งและมีอัตราการบินน้อยกกว่าเมืองใหญ่
ในกรณีฉุกเฉิน Sprayhawk ยังรองรับการควบคุมทางไกลและระบบลงจอดอัตโนมัติป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
ปัจจุบันเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ Sprayhawk ประสบความสำเร็จในการบินทดสอบ พร้อมได้รับการอนุมัติความปลอดภัยจาก Federal Aviation Administration(FAA) สหรัฐฯ สำหรับการดำเนินการทางการเกษตรเชิงพาณิชย์ และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการวางจำหน่ายภายในปี 2025
โดยตัวตัวเครื่องและระบบควบคุมของ Sprayhawk สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 700,000 ดอลลาร์(ราว 23.7 ล้านบาท)
ที่มา
https://verticalmag.com/news/rotor-shows-off-its-uncrewed-sprayhawk-helicopter-in-fort-worth/
https://rotor.ai/post/sprayhawk-texas-flight
https://www.youtube.com/watch?v=xKv_3pijyic&t=1s&ab_channel=RotorTechnologies