posttoday

เปิดแนวทางรับมือฝุ่นPM2.5 ทุกระดับ จากกรมการแพทย์!

13 มกราคม 2568

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชี้คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็ก หากสัมผัสฝุ่นPM2.5 ในระดับสูงอาจมีความเสี่ยงต่อปอด พร้อมแนวแนวทางปฏิบัติตนต่อการเผชิญฝุ่น PM2.5 ทุกระดับ

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 คือฝุ่นมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า ทำให้สูดเข้าไปในร่างกายได้โดยตรง ความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 นี้มีอันตรายต่อเด็กเพราะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำลายระบบต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เด็กที่สัมผัสกับมลพิษทางอากาศในระดับสูงอาจมีความเสี่ยงต่อปอดของเด็ก เนื่องจากยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีอัตราหายใจที่ถี่กว่าผู้ใหญ่และสูดอากาศที่มีมลพิษเข้าไปมากกว่าผู้ใหญ่ ยิ่งเด็กอายุน้อยเท่าไรอัตราการหายใจเข้าต่อนาทีก็ยิ่งถี่มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลเด็กทั้งกลุ่มปกติทั่วไปและเด็กที่มีโรคประจำตัวโดยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

 

ค่าฝุ่นเท่าไหร่ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า เพื่อลดความเสี่ยงของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อเด็กผู้ปกครองควรติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเว็บไซต์กรมอนามัย www.anamai.moph.go.th หรือแอพพลิเคชั่น Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ 

ทั้งนี้ แต่ละระดับของฝุ่นควรปฏิบัติตัวดังนี้

PM 2.5 มากกว่า 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ควรสวมหน้ากากอนามัย และไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง

PM 2.5 มากกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และพิจารณาให้มีการหยุดเรียน 

PM 2.5 มากกว่า 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรติดต่อกันเกิน 3 วันหรือ 151 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรในวันนั้น  วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที คือ

  • การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 
  • งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น การเผาใบไม้ เผาขยะและสูบบุหรี่
  • ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดโดยระวังไม่ให้ห้องร้อนจนเกินไป
  • ถูพื้นโดยใช้ผ้าเปียกเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6 – 8 แก้วต่อวัน
  • ควรใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถกำจัดฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้านหรือที่พักอาศัยได้ โดยไม่ควรใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีการผลิตโอโซนเพราะโอโซนในปริมาณมากเป็นมลพิษอย่างหนึ่ง
  • กรณีเด็กที่มีโรคประจำตัวควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์