เปิดแนวทางรับมือฝุ่นPM2.5 ทุกระดับ จากกรมการแพทย์!
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชี้คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็ก หากสัมผัสฝุ่นPM2.5 ในระดับสูงอาจมีความเสี่ยงต่อปอด พร้อมแนวแนวทางปฏิบัติตนต่อการเผชิญฝุ่น PM2.5 ทุกระดับ
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฝุ่นละออง PM 2.5 คือฝุ่นมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า ทำให้สูดเข้าไปในร่างกายได้โดยตรง ความรุนแรงของฝุ่น PM 2.5 นี้มีอันตรายต่อเด็กเพราะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำลายระบบต่างๆ ได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เด็กที่สัมผัสกับมลพิษทางอากาศในระดับสูงอาจมีความเสี่ยงต่อปอดของเด็ก เนื่องจากยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีอัตราหายใจที่ถี่กว่าผู้ใหญ่และสูดอากาศที่มีมลพิษเข้าไปมากกว่าผู้ใหญ่ ยิ่งเด็กอายุน้อยเท่าไรอัตราการหายใจเข้าต่อนาทีก็ยิ่งถี่มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลเด็กทั้งกลุ่มปกติทั่วไปและเด็กที่มีโรคประจำตัวโดยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
ค่าฝุ่นเท่าไหร่ควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า เพื่อลดความเสี่ยงของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อเด็กผู้ปกครองควรติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเว็บไซต์กรมอนามัย www.anamai.moph.go.th หรือแอพพลิเคชั่น Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ
ทั้งนี้ แต่ละระดับของฝุ่นควรปฏิบัติตัวดังนี้
PM 2.5 มากกว่า 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ควรสวมหน้ากากอนามัย และไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง
PM 2.5 มากกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และพิจารณาให้มีการหยุดเรียน
PM 2.5 มากกว่า 90 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรติดต่อกันเกิน 3 วันหรือ 151 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรในวันนั้น วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที คือ
- การสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5
- งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น การเผาใบไม้ เผาขยะและสูบบุหรี่
- ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดโดยระวังไม่ให้ห้องร้อนจนเกินไป
- ถูพื้นโดยใช้ผ้าเปียกเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6 – 8 แก้วต่อวัน
- ควรใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถกำจัดฝุ่น PM 2.5 ภายในบ้านหรือที่พักอาศัยได้ โดยไม่ควรใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีการผลิตโอโซนเพราะโอโซนในปริมาณมากเป็นมลพิษอย่างหนึ่ง
- กรณีเด็กที่มีโรคประจำตัวควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์