posttoday

Costco ยืนหยัดใช้นโยบาย 'ความหลากหลาย' แม้ถูกขอให้ตรวจสอบ! จากนโยบายทรัมป์

27 มกราคม 2568

Costco หนึ่งในบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลกตัดสินใจเผชิญหน้ากับกระแสต่อต้าน ท่ามกลางบริษัทค้าปลีกอื่นที่ส่งสัญญาณถอนตัวจากนโยบายความหลากหลายและเท่าเทียม หลังถูกยื่นข้อเสนอให้ทบทวนและตรวจสอบความเสี่ยงด้านกฎหมาย ชื่อเสียง และการเงินของบริษัท

เมื่อสองวันที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นของ Costco ลงมติเห็นชอบกับแนวทางด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (DEI) ของบริษัท หลังจากที่ National Center for Public Policy Research (NCPPR) ยื่นข้อเสนอขอให้ตรวจสอบความเสี่ยงด้านกฎหมาย ชื่อเสียง และการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านความหลากหลายและเท่าเทียม เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งพยายามต่อต้านในประเด็นดังกล่าวนั่นเอง ท่ามกลางบริษัทค้าปลีกใหญ่หลายแห่ง เช่น Amazon, Walmart, McDonald’s, Lowe’s, Tractor Supply และ Target ที่ส่งสัญญาณว่าจะถอยห่างจากโครงการที่เกี่ยวกับนโยบายความหลากหลายและเท่าเทียม (DEI)

 

 

การกล่าวหาของ NCPPR ต่อโครงการ DEI

โครงการ DEI คือโครงการที่มุ่งเน้นในด้าน Diversity, Equity, and Inclusion คือ ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นแนวทางในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและยุติธรรมทั้งในสถานที่ทำงาน องค์กร และสังคม ซึ่งนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ในปัจจุบัน 'ไม่เห็นด้วย'  และพยายามจะกำจัดโครงการ DEI ออกจากภาครัฐและบริษัทเอกชนในอเมริกา โดยล่าสุดได้มีการปิดแผนก DEI ของรัฐบาลไปแล้ว โดยให้ทุกคนหยุดงานแบบได้ค่าจ้างภายในเวลา 17.00 น. วันพุธที่ 22 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลกลางมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับการเลิกจ้างพนักงานภายในวันที่ 31 มกราคมและปิดเว็บเพจของหน่วยงาน DEI ทั้งหมด

ไม่เพียงแต่การดำเนินงานภายในรัฐบาล ทรัมป์ยังกดดันภาคเอกชน โดยการส่งข้อเสนอของ NCPPR ไปยังบริษัทต่างๆ ล่าสุดได้ขอให้ Costco ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการ DEI เป็นการเรียกร้องให้ศึกษาโครงการ โดยกล่าวหาว่าโครงการ DEI ซ่อนการกระทำที่ "เลือกปฏิบัติอย่างผิดกฎหมาย"  เพราะมีการพิจารณาเรื่องเชื้อชาติและเพศในการจ้างงานและเลื่อนตำแหน่ง 
 

Costco ยืนหยัดใช้นโยบาย \'ความหลากหลาย\' แม้ถูกขอให้ตรวจสอบ! จากนโยบายทรัมป์

 

อีธาน เพก (Ethan Peck)รองผู้อำนวยการของ NCPPR กล่าวว่า  “DEI นั้นผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และส่งผลเสียต่อมูลค่าผู้ถือหุ้น” และอ้างว่าโครงการนี้ “แอบแฝงวาระมาร์กซิสต์ที่รุนแรง” ซึ่งรัฐบาลทรัมป์ก็เห็นด้วย โดยพยายามกำจัด “การเลือกปฏิบัติด้าน DEI ที่ผิดกฎหมาย” ในภาคเอกชน ผ่านคำสั่งผู้บริหารที่ให้สำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) จัดทำรายงานและแผนเพื่อยับยั้ง DEI ที่ผิดกฎหมาย และระบุเป้าหมายสำหรับการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม Costco ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวปฏิบัติตามกฎหมายและจรรยาบรรณของบริษัทโดยระบุว่า ความหลากหลายมีความสำคัญต่อการทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับความเคารพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานและเสริมสร้าง "ความคิดสร้างสรรค์และความแปลกใหม่" ให้กับบริษัท และยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย สะท้อนผ่านผลการลงคะแนนของผู้ถือหุ้นกว่า 98% ที่โหวตไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว

 

Costco ยืนหยัดใช้นโยบาย \'ความหลากหลาย\' แม้ถูกขอให้ตรวจสอบ! จากนโยบายทรัมป์

 

การดำเนินการของรัฐบาลทรัมป์ ในการกำจัดโครงการ DEI ยังดำเนินต่อไป โดยอีธาน เพก ระบุว่า NCPPR กำลังนำข้อเสนอที่คล้ายกันนี้ไปยื่นต่อบริษัทใหญ่อื่น ๆ เช่น Apple Inc., Levi Strauss & Co., Goldman Sachs Group Inc., Berkshire Hathaway Inc., JPMorgan Chase & Co., และ Bristol-Myers Squibb Co.

ในขณะเดียวกัน Apple ก็เห็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ Costco แม้ว่าจะกำลังเผชิญข้อเสนอต่อต้าน DEI ที่รุนแรงยิ่งกว่าจาก NCPPR จนทำให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้เพื่อให้บริษัท “พิจารณายกเลิกโครงการ นโยบาย แผนก และเป้าหมายด้านความหลากหลายและการมีส่วนร่วม” แต่คณะกรรมการของ Apple แนะนำให้ผู้ถือหุ้นลงมติคัดค้านข้อเสนอ โดยระบุว่า 'ไม่จำเป็น'  เนื่องจากบริษัทมีการกำกับดูแลที่ชัดเจนและดำเนินการตามกฎหมาย และมองว่าข้อเสนอดังกล่าวพยายามจำกัดความสามารถของ Apple ในการบริหารจัดการทีม คน และกลยุทธ์ธุรกิจของบริษัทเช่นกัน.