Costco ยืนหยัดใช้นโยบาย 'ความหลากหลาย' แม้ถูกขอให้ตรวจสอบ! จากนโยบายทรัมป์
Costco หนึ่งในบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลกตัดสินใจเผชิญหน้ากับกระแสต่อต้าน ท่ามกลางบริษัทค้าปลีกอื่นที่ส่งสัญญาณถอนตัวจากนโยบายความหลากหลายและเท่าเทียม หลังถูกยื่นข้อเสนอให้ทบทวนและตรวจสอบความเสี่ยงด้านกฎหมาย ชื่อเสียง และการเงินของบริษัท
เมื่อสองวันที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นของ Costco ลงมติเห็นชอบกับแนวทางด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (DEI) ของบริษัท หลังจากที่ National Center for Public Policy Research (NCPPR) ยื่นข้อเสนอขอให้ตรวจสอบความเสี่ยงด้านกฎหมาย ชื่อเสียง และการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านความหลากหลายและเท่าเทียม เนื่องจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งพยายามต่อต้านในประเด็นดังกล่าวนั่นเอง ท่ามกลางบริษัทค้าปลีกใหญ่หลายแห่ง เช่น Amazon, Walmart, McDonald’s, Lowe’s, Tractor Supply และ Target ที่ส่งสัญญาณว่าจะถอยห่างจากโครงการที่เกี่ยวกับนโยบายความหลากหลายและเท่าเทียม (DEI)
การกล่าวหาของ NCPPR ต่อโครงการ DEI
โครงการ DEI คือโครงการที่มุ่งเน้นในด้าน Diversity, Equity, and Inclusion คือ ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นแนวทางในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและยุติธรรมทั้งในสถานที่ทำงาน องค์กร และสังคม ซึ่งนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ในปัจจุบัน 'ไม่เห็นด้วย' และพยายามจะกำจัดโครงการ DEI ออกจากภาครัฐและบริษัทเอกชนในอเมริกา โดยล่าสุดได้มีการปิดแผนก DEI ของรัฐบาลไปแล้ว โดยให้ทุกคนหยุดงานแบบได้ค่าจ้างภายในเวลา 17.00 น. วันพุธที่ 22 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลกลางมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับการเลิกจ้างพนักงานภายในวันที่ 31 มกราคมและปิดเว็บเพจของหน่วยงาน DEI ทั้งหมด
ไม่เพียงแต่การดำเนินงานภายในรัฐบาล ทรัมป์ยังกดดันภาคเอกชน โดยการส่งข้อเสนอของ NCPPR ไปยังบริษัทต่างๆ ล่าสุดได้ขอให้ Costco ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการ DEI เป็นการเรียกร้องให้ศึกษาโครงการ โดยกล่าวหาว่าโครงการ DEI ซ่อนการกระทำที่ "เลือกปฏิบัติอย่างผิดกฎหมาย" เพราะมีการพิจารณาเรื่องเชื้อชาติและเพศในการจ้างงานและเลื่อนตำแหน่ง
อีธาน เพก (Ethan Peck)รองผู้อำนวยการของ NCPPR กล่าวว่า “DEI นั้นผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และส่งผลเสียต่อมูลค่าผู้ถือหุ้น” และอ้างว่าโครงการนี้ “แอบแฝงวาระมาร์กซิสต์ที่รุนแรง” ซึ่งรัฐบาลทรัมป์ก็เห็นด้วย โดยพยายามกำจัด “การเลือกปฏิบัติด้าน DEI ที่ผิดกฎหมาย” ในภาคเอกชน ผ่านคำสั่งผู้บริหารที่ให้สำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB) จัดทำรายงานและแผนเพื่อยับยั้ง DEI ที่ผิดกฎหมาย และระบุเป้าหมายสำหรับการดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม Costco ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวปฏิบัติตามกฎหมายและจรรยาบรรณของบริษัทโดยระบุว่า ความหลากหลายมีความสำคัญต่อการทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและได้รับความเคารพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานและเสริมสร้าง "ความคิดสร้างสรรค์และความแปลกใหม่" ให้กับบริษัท และยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมาย สะท้อนผ่านผลการลงคะแนนของผู้ถือหุ้นกว่า 98% ที่โหวตไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว
การดำเนินการของรัฐบาลทรัมป์ ในการกำจัดโครงการ DEI ยังดำเนินต่อไป โดยอีธาน เพก ระบุว่า NCPPR กำลังนำข้อเสนอที่คล้ายกันนี้ไปยื่นต่อบริษัทใหญ่อื่น ๆ เช่น Apple Inc., Levi Strauss & Co., Goldman Sachs Group Inc., Berkshire Hathaway Inc., JPMorgan Chase & Co., และ Bristol-Myers Squibb Co.
ในขณะเดียวกัน Apple ก็เห็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ Costco แม้ว่าจะกำลังเผชิญข้อเสนอต่อต้าน DEI ที่รุนแรงยิ่งกว่าจาก NCPPR จนทำให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้เพื่อให้บริษัท “พิจารณายกเลิกโครงการ นโยบาย แผนก และเป้าหมายด้านความหลากหลายและการมีส่วนร่วม” แต่คณะกรรมการของ Apple แนะนำให้ผู้ถือหุ้นลงมติคัดค้านข้อเสนอ โดยระบุว่า 'ไม่จำเป็น' เนื่องจากบริษัทมีการกำกับดูแลที่ชัดเจนและดำเนินการตามกฎหมาย และมองว่าข้อเสนอดังกล่าวพยายามจำกัดความสามารถของ Apple ในการบริหารจัดการทีม คน และกลยุทธ์ธุรกิจของบริษัทเช่นกัน.