FOBO ความกังวลของคนในยุคดิจิทัล สิ่งที่ WEF 2025 ให้ความสำคัญ!
อะไรคืออาการของความกลัวล้าสมัย คุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า เมื่ออาการ FOBO ถูกนำมากล่าวถึงบนเวที World Economic Forum 2025 ด้วยเหตุผลที่เทคโนโลนีกำลังแซงหน้ามนุษย์และทำหน้าที่หลายอย่างแทนมนุษย์ได้ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์!
ในการประชุม World Economic Forum (WEF) ปี 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หัวข้อ “FOBO” (Fear of Becoming Obsolete) หรือ “ความกลัวที่จะล้าสมัย” ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน เทคโนโลยี และเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุคที่ AI และระบบอัตโนมัติพัฒนาอย่างรวดเร็ว
FOBO หมายถึงความกังวลของพนักงานว่าความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้ทักษะและงานของพวกเขาล้าสมัย จากการสำรวจของ Gallup พบว่ามีพนักงานในสหรัฐฯ ที่กังวลว่างานของตนจะล้าสมัยเนื่องจากเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2021 เป็น 22% ในปี 2023
“FOBO” (Fear of Becoming Obsolete) เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน เทคโนโลยี และเศรษฐกิจโลก
ในการประชุม WEF ปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะของพนักงาน เพื่อให้ AI เป็นเครื่องมือที่เสริมสร้างทักษะของมนุษย์แทนที่จะมาเข้ามาแทนที่
Ravin Jesuthasan ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตของการทำงาน ได้แนะนำให้องค์กรกำหนดการฝึกอบรมที่เป็นโครงสร้างและระบุงานเฉพาะที่ AI จะเข้ามามีบทบาท เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวและพัฒนาทักษะที่จำเป็น
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการใช้ “การให้คำปรึกษาแบบย้อนกลับ” (reverse mentoring) ซึ่งพนักงานรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจะช่วยแนะนำพนักงานอาวุโสในการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้องค์กรจะสามารถจัดหาทรัพยากรและการฝึกอบรมได้ แต่การที่พนักงานจะยังคงมีความเกี่ยวข้องในตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ จำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นและความอยากรู้จากตัวพนักงานเอง
Dava Newman ผู้อำนวยการ MIT Media Lab พูดระหว่างเซสชันเกี่ยวกับดาวเทียมเมื่อวันที่ 16 มกราคม (ภาพ weforum.org)
เหตุผลที่ FOBO ได้รับความสนใจเป็นพิเศษใน WEF 2025
การเร่งพัฒนาของ AI และระบบอัตโนมัติ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้มาขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโค้ด และการตัดสินใจทางธุรกิจ งานที่เคยต้องอาศัยมนุษย์ เช่น การบริการลูกค้า การบัญชี หรือแม้แต่การแพทย์ กำลังถูกทดแทนโดยเทคโนโลยี
ความกังวลของพนักงานและนายจ้าง
Gallup รายงานว่าพนักงานในสหรัฐฯ ที่กังวลว่างานของตนจะล้าสมัยเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2021 เป็น 22% ในปี 2023 ด้านนายจ้างเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ตามทันเทคโนโลยี
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
• ความผันผวนทางเศรษฐกิจจากภาวะเงินเฟ้อ การเปลี่ยนแปลงของตลาดทุน และสงครามการค้าทำให้แรงงานต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
• องค์กรต้องเตรียมตัวให้พนักงานสามารถพัฒนาและเปลี่ยนสายงานได้อย่างรวดเร็ว
แนวคิดของ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” (Lifelong Learning) และการ Reskilling
• WEF 2025 สนับสนุนให้บริษัทและรัฐบาลลงทุนในการฝึกอบรมแรงงานใหม่ (Reskilling) และพัฒนาแรงงานเดิม (Upskilling)
• Ravin Jesuthasan (ผู้เชี่ยวชาญด้านอนาคตของการทำงาน) ชี้ให้เห็นว่าการให้พนักงานเข้าถึงการฝึกอบรม AI และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยลดความกลัวและเพิ่มความสามารถในการปรับตัว
ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงองค์กรและวัฒนธรรมการทำงาน
• หลายบริษัทนำแนวทาง “Reverse Mentoring” มาใช้ ให้พนักงานรุ่นใหม่ช่วยฝึกอบรมพนักงานอาวุโสเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
• วัฒนธรรมองค์กรต้องส่งเสริมการทดลอง การเรียนรู้จากความล้มเหลว และการปรับตัวให้ทันกับโลกดิจิทัล
FOBO ไม่ได้หมายถึงความกังวลเพียงแค่เรื่องการตกงานเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ความกลัวที่จะสูญเสียทักษะที่เกี่ยวข้องในสายอาชีพของตน เมื่อสามารถใช้เทคโนโลยีแทนได้ และความรู้สึกว่าความสามารถที่มีอยู่เริ่มล้าหลังเทียบกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากกว่านั้นก็คือ “ความกังวลว่าจะไม่สามารถเรียนรู้หรือปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงได้ทันเวลา”
ภาพโดย AI
ตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้เกิด FOBO
1. AI และ Automation: เทคโนโลยีที่สามารถทำงานซ้ำซากแทนมนุษย์ เช่น งานด้านบัญชี การวิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่งานที่ต้องใช้การสร้างสรรค์ เช่น การเขียนหรือการออกแบบ
2. การเรียนรู้ที่รวดเร็วของเทคโนโลยี: การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วทำให้ความรู้หรือทักษะบางอย่างกลายเป็นสิ่งล้าสมัยภายในเวลาไม่กี่ปี
3. การเปลี่ยนแปลงความต้องการของตลาดแรงงาน: ตลาดแรงงานต้องการคนที่มีทักษะเฉพาะทาง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโค้ด หรือการจัดการระบบ AI
วิธีจัดการ FOBO
1. พัฒนาทักษะใหม่ (Upskilling และ Reskilling):
• สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เช่น ความรู้ด้านดิจิทัลหรือ AI
• ลงทุนในโปรแกรมฝึกอบรมในองค์กร
2. ส่งเสริมความยืดหยุ่นทางความคิด (Growth Mindset):
• กระตุ้นให้พนักงานเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ และมองการเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสแทนที่จะเป็นอุปสรรค
3. สร้างความมั่นใจผ่านการสื่อสาร:
• ผู้นำองค์กรควรสื่อสารถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของพนักงานในอนาคต
• แสดงความตั้งใจในการสนับสนุนพนักงานในระยะยาว
4. จัดทำแผนอนาคตสำหรับพนักงาน:
• วางแผนให้พนักงานได้รู้บทบาทใหม่ ๆ ที่จะมีในยุคดิจิทัล
• สนับสนุนพนักงานที่ต้องการเปลี่ยนสายงานหรือลองสิ่งใหม่ ๆ
ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ
1. การเงินและธนาคาร (การวิเคราะห์ข้อมูล, การให้คำปรึกษา)
2. การผลิต (การใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานคน)
3. การตลาด (AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและสร้างแคมเปญอัตโนมัติ)
4. การศึกษา (แพลตฟอร์มเรียนรู้ด้วย AI ที่ทดแทนการสอนบางส่วน)