รับสงกรานต์ 68 ขอใบขับขี่สากลผ่านแอปฯ เป๋าตังได้แล้ว ตลอด 24 ชม.
กรมการขนส่งทางบก ยกระดับบริการรับสงกรานต์ 2568 ประชาชนยื่นขอใบขับขี่สากลผ่านแอปฯ เป๋าตังได้แล้วตลอด 24 ชั่วโมง
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศความพร้อม อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว ขับรถในต่างประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ที่กำลังจะมาถึง
โดยเปิดให้ประชาชนสามารถ ขอรับใบขับขี่สากลทุกขั้นตอนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้แล้วตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทุกเวลา
ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ และอาจมีความต้องการขับรถยนต์ในต่างแดน
กรมการขนส่งทางบกจึงได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่สากล สามารถดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ประชาชนสามารถดำเนินการขอรับใบขับขี่สากลได้ตั้งแต่การยื่นคำขอ การตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล การยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การชำระค่าธรรมเนียม
ไปจนถึงการออกใบอนุญาตขับรถสากล และจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ถึงบ้าน โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางมาติดต่อที่สำนักงานขนส่งอีกต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ขอสามารถเลือกขอรับใบขับขี่สากลได้ตามอนุสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี ซึ่งครอบคลุมประเทศปลายทางที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เช่น
- อนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 (อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
- อนุสัญญาเวียนนา ค.ศ. 1968 (อาทิ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ บราซิล บาห์เรน)
โดยสามารถตรวจสอบอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ต้องการเดินทางไปได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://apps.dlt.go.th/ltpcenter/
สำหรับค่าธรรมเนียมในการขอรับใบขับขี่สากลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังนั้น ประกอบด้วยค่าคำขอ 505 บาท และค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ 60 บาท
อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยกเว้นค่าบริการรับชำระเงินของธนาคารฯ ให้แก่ประชาชนจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ สถิติการขอรับใบขับขี่สากลผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า
10 จังหวัดที่มีผู้ขอรับบริการมากที่สุด ได้แก่
1.กรุงเทพมหานคร จำนวน 9,878 ฉบับ
2. นนทบุรี จำนวน 1,792 ฉบับ
3. สมุทรปราการ จำนวน 1,262 ฉบับ
4. ชลบุรี จำนวน 973 ฉบับ
5. ปทุมธานี จำนวน 913 ฉบับ
6. เชียงใหม่ จำนวน 654 ฉบับ
7. ระยอง จำนวน 382 ฉบับ
8. ภูเก็ต จำนวน 298 ฉบับ
9. นครปฐม จำนวน 279 ฉบับ
10. สงขลา จำนวน 236 ฉบับ