5 ความผิดใหม่ ครม.รับหลักการ ฟันโทษ ‘ความผิดต่อเด็กในโลกออนไลน์’

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (18 มีนาคม 2568 ) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ.... (การกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

สาเหตุของการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากกฎหมายไม่ครอบคลุมกับปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน และไม่สามารถดำเนินการคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนจากการตกเป็นเหยื่อของการกระทำความผิดต่อเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อดูในรายละเอียดซึ่งกระทรวงยุติธรรมเสนอ มีการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพ เพิ่มเติม ไว้ 5 ประเภท ดังนี้

1.  ล่อลวงเด็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ ในลักษณะ offline และ online grooming คือการโน้มน้าว จูงใจ ล่อลวง หรือกระทำให้เด็กและเยาวชนยอมรับการกระทำอันไม่สมควร ซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับในความผิดที่ยังไม่เกิดผล แต่ถ้าหากความผิดเกิดผลแล้วต้องระวางโทษหนักขึ้น

หากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จะมีโทษหนักขึ้นถึงขั้นจำคุกไม่เกิน 7 ปี  หากถึงแก่ความตายจะต้องได้รับโทษหนักขึ้น ในกรณีรับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 6 หม่นบาทถึง 2 แสนบาท และกรณีถึงแก่ความตาย จำคุก 15-20 ปี ปรับตั้งแต่ 3 -4 แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต

2. พูดคุยเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าด้วยกาย วาจา ลายลักษณ์อักษร ภาพ เสียง หรือวิธีการอื่นๆ ต้องระวางโทษจำคุกไม่กิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีจะต้องระวางโทษหนักขึ้น

3. แบล็กเมลทางเพศ คือข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ ส่งต่อ ข้อความ ภาพ เสียงที่บันทึกไว้ในเรื่องที่ไม่เหมาะสมทางเพศ หรือทำให้อับอายหรือเสียชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องเพศ  จะมีโทษหนักขึ้นกว่าเดิม และจะรวมถึง ‘ข้อความ’ ซึ่งแต่เดิมจำกัดแค่ ภาพและเสียง

4. การติดตามคุกคาม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จนเกิดความเดือดร้อนหรือสร้างความรำคาญ  มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และหากกระทำผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคม หรือระบบคอมพิวเตอร์ จะโทษหนักขึ้น

5. กลั่นแกล้งรังแกออนไลน์  ซึ่งเป็นลักษณะกลั่นแกล้ง รังแก ระราน ข่มเหง หรือกระทำอื่นใดซ้ำๆ ต่อผู้อื่น ผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์โทรคมนาคม  หากมีการได้รับผลกระทบทางร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน หรืออย่างหนึ่งอย่างใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และยังเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 และจะนำเข้าสู่กระบวนการเพื่อขอความเห็นชอบในรัฐสภาต่อไป.