posttoday

เปิดผลสำเร็จปั้นช่างมืออาชีพ 600 ราย ทั่วประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ 350 ล.

24 มิถุนายน 2567

ก.อุตฯ เสริมแกร่งเอสเอ็มอีตามแผนงานปี 67 ผ่าน 6 โครงการหลัก ปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมมืออาชีพกว่า 4.9 พันราย คาดกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศกว่า 1.1 พันล้านบาท


นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน อุตสาหกรรมรวมใจ “มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและบริการซ่อมจากช่างมืออาชีพ” ปั้นช่างมืออาชีพ สร้างโอกาสทางการตลาดในพื้นที่ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 จังหวัดพิษณุโลก ว่า งานนี้เป็นผลสำเร็จมาจากโครงการสร้างผู้ประกอบการจากช่างมืออาชีพ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 โครงการหลักที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการสนับสนุนให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้ เชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตในพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณปี 2567 โดยการจัดงานในวันนี้จะมีกิจกรรมจัดแสดงและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า การให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากผู้เข้าร่วมการอบรมโครงการสร้างผู้ประกอบการจากช่างมืออาชีพจากกระทรวงอุตสาหกรรมกว่า 600 รายทั่วประเทศ โดยเป็นช่างมืออาชีพในด้านต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมการอบรม ต่อยอดความรู้จากการอบรม และมีเวทีในการเป็นผู้ประกอบการ สร้างโอกาสทางการตลาด เพิ่มช่องทางขยายธุรกิจให้เกิดเครือข่ายช่างมืออาชีพ และเกิดการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานกับภาคธุรกิจในพื้นที่

สำหรับ 6 โครงการหลักที่สนับสนุนให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้ เชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตในพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณปี 2567 ประกอบด้วย 

1. โครงการสร้างผู้ประกอบการจากช่างมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจและผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโมเดลธุรกิจในอาชีพช่าง เช่น ช่างแอร์ ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่างรับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวความคิด ทัศนคติ ทักษะและองค์ความรู้การบริหารจัดการธุรกิจ สำหรับการเป็นผู้ประกอบการอัจฉริยะยุคใหม่พร้อมทั้งเร่งรัดให้สามารถเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ จนสามารถจัดตั้งและขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 

2. โครงการสร้างเสริม เติมทักษะ สู่อาชีพดีพร้อม เพื่อเพิ่มทักษะ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน สร้างรายได้ และเงินหมุนเวียนในชุมชน พร้อมทั้งการนำองค์ความรู้ การสั่งสมความเชี่ยวชาญที่ได้รับการถ่ายทอด นำไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนรุ่นต่อไป กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน 

3. โครงการพัฒนานักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มทักษะองค์ความรู้ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการเกษตรครอบคลุมทุกมิติ ได้แก่ การพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การยกระดับศักยภาพผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่เกษตรอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็ง ทั้งการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต การยกระดับมาตรฐานและคุณภาพสินค้าเกษตรขยายโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาด 

4. โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วยบริการปรึกษาแนะนำเบื้องต้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถพัฒนา ปรับปรุงแก้ไขปัญหา ริเริ่ม ต่อยอด เชื่อมโยงธุรกิจและแหล่งเงินทุน ผ่านรูปแบบของการให้บริการข้อมูลธุรกิจและคำปรึกษาแนะนำเบื้องต้น 

5. โครงการพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นและสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีการแปรรูป และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในสถานประกอบการ 

6. โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่ ให้มีศักยภาพรองรับเศรษฐกิจวิถีใหม่ ในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ การส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม โอกาสด้านการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจวิถีใหม่

จากผลสำเร็จของโครงการช่างมืออาชีพ เราได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชนที่สนใจอยากประกอบอาชีพช่างและต่อยอดเป็นนักธุรกิจอุตสาหกรรม โดยสามารถสร้างช่างมืออาชีพกว่า 600 รายทั่วประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นเพียง 1 ใน 6 โครงการหลัก ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการสนับสนุนให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้ เชื่อมโยงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตในพื้นที่ทั่วประเทศ ภายใต้งบประมาณปี 2567 

ทั้ง 6 โครงการจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567 และจะมีการแถลงผลสำเร็จภาพรวมของทั้ง 6 โครงการต่อไป คาดว่าจะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพและเสริมแกร่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้กว่า 4,900 ราย กระตุ้นสร้างเศรษฐกิจได้มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ