เปิดเคล็ดลับ ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” ปั้นยอดขาย 6 ล้าน ภายใน 5 เดือน
“นิ้ง-สิริยากร” ยุวเกษตรกร Gen ใหม่ บัณฑิต PIM ป้ายแดง กลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ต่อยอดความรู้คู่เทคโนโลยี ตั้งเป้ายอดขายหลักสิบล้านภายในปีหน้า
หลายปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่จำนวนมาก เลือกเดินออกจาก “ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม” เพราะบางคนมองเป็นงานหนัก บางคนมองว่า “ไม่เท่” รวมถึงบางคนมองเป็นงานยากในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่สำหรับ นิ้ง-สิริยากร ธรรมจิตร์ บัณฑิตป้ายแดงเจ้าของแบรนด์ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” จ.จันทบุรี นั้น เธอเลือกยืนหยัดกลับมาสานต่อธุรกิจสวนทุเรียนของครอบครัว กลายเป็น New Gen ยุวเกษตรกร ที่มุ่งมั่นให้ธุรกิจเกษตรเติบโตอย่างมีนวัตกรรม
นิ้ง เล่าว่า แต่เดิมเธอเป็นเด็กที่ชื่นชอบงานด้านวิชาการ จุดเปลี่ยนสำคัญคือ ช่วง ม.6 คุณพ่อของเธอไปเห็นทุนการศึกษา ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อเข้าศึกษาต่อคณะเกษตรนวัตและการจัดการ (IAM) คณะที่ช่วยให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ที่สร้างรายได้สูง
ตอนแรกเคยตั้งคำถามว่า ถ้าเรียนด้านเกษตรกรรมเฉยๆ จะไหวหรือไม่ แต่ที่บ้านบอกเราชัดเจนว่า ไม่ได้อยากให้เรากลับมาเพื่อทำสวน แต่อยากให้มาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ทางคณะให้เราเรียนรู้ด้านเกษตรควบคู่กับธุรกิจ ไม่ใช่เรียนแค่ทฤษฎี แต่ให้เราได้เข้าสู่ภาคปฏิบัติจริงๆ ตลอด 4 ปี ทั้งการฝึกงานที่สวนทุเรียนในจังหวัดอื่น การฝึกงานเป็นแอดมินเพจ การเรียนจริง ทำจริง ส่งผลให้เรารู้วิธีเอาทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ และการนำเทคโนโลยีมาต่อยอด
หลังเรียนจบ เธอได้เริ่มบริหารที่ดินที่ได้รับจากคุณพ่อ ขนาดประมาณ 5 ไร่ เป็นสวนทุเรียนของตัวเอง พร้อมทั้งเข้าไปช่วยทำการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลผลิตในสวนครอบครัวด้วยการสร้างแบรนด์ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” ขายสินค้าผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
สิ่งที่เธอได้รับจากการเรียน ทำให้เธอเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแพลตฟอร์มมากขึ้น และเลือกพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม เช่น Tiktok จะมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายช่วงอายุและเจเนอเรชัน เธอจึงมีสินค้า ทุเรียนลูกป๊อกแป๊กขนาดมินิ ราคาไม่แรง ไปจนถึงทุเรียน 5 พู เกรดเอ ไว้ Live รองรับทุกกลุ่ม ขณะที่บนเฟซบุ๊ก เธอจะนำเสนอโปรดักท์ 2 เกรด ทั้งเกรดธรรมดาและเกรดพรีเมียม ส่วนบนช่องทาง All Online ของเซเว่น อีเลฟเว่น เธอจะเน้นโปรดักท์เกรดสูงที่สุด ความเข้าใจดังกล่าวส่งผลให้เธอบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน การเรียนยังทำให้เธอได้รับทักษะการวางแผนและการบริหารจัดการ เช่น การบริหารจัดการน้ำในปีที่น้ำแล้ง จากเดิมที่ต้องใช้วิธีการลองผิดลองถูก เธอได้เตรียมขุดสระไว้ล่วงหน้า ทำให้สวนของเธอมีผลผลิตเพิ่มขึ้น สวนทางกับตลาดที่มีผลผลิตลดลง เฉพาะ 5 เดือนแรกของปีนี้ สวนของเธอ มีรายได้กว่า 6 ล้านบาท โดยปีหน้าตั้งเป้าสู่ยอดขาย 8 หลัก เธอมองว่า หากชาวสวนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่ดี ผลผลิตของประเทศก็คงมีมากขึ้น