จุดเปลี่ยน “มังกรฟ้า” จาก ล็อตเตอรี่ออนไลน์ สู่โซลูชันร้านค้ารายย่อย
หลังปิดฉาก แพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์ มังกรฟ้า ยังไม่ท้อ เดินหน้าสู่บทบาทใหม่ เทคสตาร์ทอัพ โซลูชันบริหารจัดการร้านค้ารายย่อย คิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งาน
ปิดฉาก “มังกรฟ้า” แพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติจากโควิด-19 ด้วยหวังเป็นแค่ “ตัวกลาง” ในการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนขายล็อตเตอรี่ที่กำลังจะตาย ให้สามารถนำล็อตเตอรี่มาขายผ่านระบบออนไลน์ที่มีความปลอดภัยและชัดเจน
จากการวางล็อตเตอรี่ไม่กี่หมื่นฉบับบนเว็บไซต์ มาสู่หลักล้าน ที่ต้องการการบริหารจัดการที่มากขึ้น ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้น และเห็นโอกาสของการพัฒนาเทคโนโลยีรองรับ
วันนี้ “มังกรฟ้า” มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง หลังจากประกาศปิดตัว “แพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์” อย่างถาวรเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และพร้อมก้าวสู่บทบาทใหม่ “ BlueDragon BlueOcean ” เทคสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาโซลูชั่นและแพลตฟอร์มตัวช่วยในการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเริ่มต้นจากฐานลูกค้าดั้งเดิม หรือผู้ค้าล็อตเตอรี่ ที่มีกว่า 6 หมื่นราย
ผุด 3 โครงการใหม่ต่อยอดสิ่งที่มีอยู่
“แทมป์ -พชรล์ เมสิยาห์พร” ผู้บริหาร บริษัท บลูดรากอนบลูโอเชี่ยน จำกัด เปิดเผยว่า มังกรฟ้าตัดสินใจปิด“แพลตฟอร์มล็อตเตอรี่ออนไลน์” อย่างถาวร เมื่อต้นปี 2567 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้มีการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และล่าสุด พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว 3 โครงการสำคัญ ภายใต้องค์กรใหม่ "BlueDragon BlueOcean"
เพื่อสร้างพื้นที่ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือพัฒนาต่อยอดมาจากสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น โดยจะเป็นตัวช่วยให้กับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นไปตามนิยามและความหมายของคำว่า Blue Ocean ที่เปรียบเสมือนมหาสมุทรสีฟ้าอันกว้างใหญ่ เป็นการพัฒนา การสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคในหลากหลายรูปแบบ
โครงการแรก คือ BLUESTAT เป็นการพัฒนาเครื่องมืออัจฉริยะ ตัวช่วยสำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ซึ่งจะรวบรวมเทคโนโลยีและฟังชันที่สำคัญสำหรับร้านค้ามารวมอยู่ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบ POS , CRM และERP
เราไปทำวิจัยมาแล้ว พบว่าทุกธุรกิจในประเทศไทยมีปัญหา เรื่องการจัดการต้นทุน จัดการสินค้า ผู้ประกอบการรายย่อยไม่รู้ว่าจะบริหารต้นทุนอย่างไร
ผู้บริหาร บลูดรากอนบลูโอเชี่ยน บอกว่า เรามองคนขายล็อตเตอรี่มังกรฟ้าคือนักการตลาดออนไลน์ การขายล็อตเตอรี่ออนไลน์ได้เป็นพันเป็นหมื่นฉบับ แสดงว่ามีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นจุดต่างของ BlueDragon BlueOcean คือ การมีพนักงานมากที่สุด มีทีมสนับสนุน 50 คนและมีทีมพัฒนาอีก 100 คน
ขณะที่จุดเด่นคือการปฏิวัติรูปแบบการขายใหม่ ด้วยโมเดลธุรกิจคือ การนำเอาเครื่อง POS ที่มีฟังก์ชั่นครบถ้วนไปติดตั้งให้ผู้ประกอบการร้านค้า ใช้ฟรี จะคิดค่าใช้จ่ายก็ต่อเมื่อมีรายได้ โดยคิดบิลละประมาณ 1บาท
บิลละ 25 สตางค์เอาใจรายย่อย
เป้าหมายของ BlueDragon BlueOcean ก็คือ การเพิ่มโอกาสให้ร้านค้ารายย่อยไม่ว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวร้าน กาแฟ หรือโชห่วยต่าง ๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำธุรกิจในราคาที่ถูกลง ซึ่งโมเดลธุรกิจนี้ BlueDragon BlueOcean จะดำเนินการผ่านผู้ค้าล็อตเตอรี่ หรือนักลงทุน ที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยจำหน่ายเครื่อง POS ให้กับนักลงทุนในราคาประมาณเครื่องละ 1 หมื่นบาท และคิดค่าบริการระบบจากนักลงทุนบิลละ 25 สตางค์
ระบบ BLUESTAT ใช้เวลากว่า 2 ปีในการพัฒนา จุดเด่นของระบบคือ มีฟังก์ชั่นทุกฟังก์ชั่น ทั้งการตรวจสอบคำสั่งซื้อ เช็ควัตถุดิบหลังร้าน ระบบหน้าร้านมีระบบโปรโมชั่น สะสมแต้ม สะสมฐานลูกค้า ตั้งเป้าปลายปีนี้จะสามารถวางเครื่อง POS ได้ประมาณ 10,000 เครื่อง และถึง 100,000 เครื่องในปีหน้า
1บาท/วินาที รายย่อยเข้าถึงโฆษณา
จาก BLUESTAT ได้มีการต่อยอดไปสู่ โครงการที่ 2 คือ Blue Dragon Eyes หรือ ตาเทพ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ Media และสื่อโฆษณา Out of Home โดยมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า ตาเทพ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมกับระบบ AI จะเข้ามาเป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูล การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล และจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างสรรค์ระบบ ให้มีการแสดงผลด้านมัลติมีเดียได้อย่างถูกต้อง
โครงการนี้จะทำให้ร้านค้ารายย่อยมีโอกาสได้เข้าถึงสื่อโฆษณาต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสามารถนำสินค้าขึ้นประชาสัมพันธ์บนบิลบอร์ดได้ในราคาเริ่มต้น เพียงแค่ 1 บาทต่อวินาที
คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปลายปีนี้ ตั้งเป้าปีหน้าจะสามารถติดตั้งระบบบนแผ่นป้ายโฆษณาได้ 1,000 ป้าย ซึ่งนอกจากจะเป็นบิลบอร์ดทั่วไปแล้ว ยังมีแผนในการติดตั้งกล้อง Blue Dragon Eyes รวมถึงติดตั้งป้ายโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก ตามร้านค้าต่าง ๆ ที่ใช้บริการ BLUESTAT อีกด้วย
ตั้งเป้าผู้ใช้งาน 1 ล้านรายภายใน 3 ปี
สำหรับโครงการที่ 3 คือ HBD เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้น เพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงการลงทะเบียนในรูปแบบใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตน โดยแพลตฟอร์ม HBD จะเป็นตัวกลางในการส่งมอบของขวัญให้กับคนพิเศษที่มีความสำคัญกับทุกคน ซึ่งมองว่าคนไทยนิยมให้ของขวัญในทุกเทศกาล ทั้งนี้จะเปิดให้ใช้แอปพลิเคชันได้ในปีหน้า
ผมเริ่มต้นจาก Blue Dragon Eyes ต่อยอดมา Blue Dragon Eyes และ HBD อนาคตจะกลายเป็น G- Commerce ซึ่งหมายถึง Gift, Give, Guard และ Green เป้าหมายต้องมีผู้ใช้งาน 1 ล้านรายในแต่ละโครงการภายใน 3 ปีข้างหน้า