เส้นทางโต 1,200 ล้านบาทใน 5 ปี "NTF"ส่งออกผลไม้สดพรีเมี่ยม
รู้จักธุรกิจส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยม “เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (NTF)” ปั้นยอดขายจาก 14 ล้านบาท สู่ระดับ 1,200 ล้านบาทภายใน 5 ปี พร้อมเดินหน้ายกระดับผลไม้ไทยเจาะตลาดต่างประเทศ วาดเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เสริมแกร่งธุรกิจในอนาคต
ตลาดจีนถือเป็นตลาดปราบเซียน ใช่ว่า "ใคร" จะสามารถขายสินค้าและทำการตลาดได้ง่าย แต่ "บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด" ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกผลไม้สดเกรดพรีเมี่ยมกลับเติบโตต่อเนื่อง
หัวใจสำคัญของความสำเร็จ คือ "รู้จักตลาดและความต้องการของลูกค้า" จากนั้นนำเสนอสินค้าให้ตรงใจที่สุด พร้อมคัดสรรคุณภาพและควบคุมกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการส่งออก สร้างเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งในตลาดจีนทำให้สามารถขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนั้นคือจุดแข็งของ NTF สะท้อนภาพผลการดำเนินตลอด 5 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งในปีพ.ศ.2563 แม้อยู่ในช่วงวิกฤติโควิด-19
“วิชัย ศิระมานะกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เล่าจุดเริ่มต้นว่า ตนเองกับเพื่อนร่วมกันก่อตั้ง "เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย)" ด้วยความที่อยู่ในวงการส่งออกและการเงินมานาน เห็นช่องทางการส่งออกที่มีโอกาสเติบโตจึงปรึกษากันว่าควรคว้าโอกาสนี้จึงได้จัดตั้ง "NTF" ขึ้นในช่วงโควิด-19 เพราะเราเห็นโอกาสในวิกฤติ โดยปีแรกเริ่มจากส่งออกลำไย ปีต่อมาเพิ่มส่งออกทุเรียน
ด้วยตลาดส่งออกทุเรียนไทยไปประเทศจีนเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับสูงให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนไทย จากข้อมูล ณ 9 เดือนปี 2567 มีมูลค่าการส่งออกทุเรียนไทยรวม 130,000 ล้านบาทใกล้เคียงมูลค่าส่งออกทุเรียนของตลอดทั้งปี 2566 ขณะที่ NTF ส่งออกเพียง 1% ของตลาดส่งออกทุเรียนเท่านั้นยังสามารถขยายตลาดได้อีกมาก
NTF ทำการตลาดในประเทศจีนภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่ เหม่ย ลี่ (Mei Li), ไท่ จี้ (Tai Ji), จิน เยี่ยน (Jin Yan) และไท่ ถิง ห่าว (Tai Ting Hao) เพื่อให้เหมาะสมกับตัวแทนสินค้าที่จำหน่ายให้ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ในตลาดสำคัญตามเมืองต่างๆ อาทิ กวางเจา (Guangzhou) ตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและใหญ่ที่สุดในโลก เจียซิง (Jiaxing) ตลาดผลไม้ที่มีปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของโลก และปักกิ่ง (Beijing) ศูนย์กลางตลาดค้าผลไม้ภาคเหนือ ซึ่งแบรนด์สินค้า 3 ใน 4 แบรนด์ของบริษัทติดท็อป 5 แบรนด์ผลไม้ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีน
ปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกสินค้า แบ่งเป็น สินค้าประเภททุเรียน 90% กำลังการผลิตปีละ 500 ตู้ ตู้ละ 16-18 ตัน หรือประมาณ 1,600-1,800 กิโลกรัมต่อตู้ , สินค้าประเภทลำไย 8% กำลังการผลิตปีละ 300 ตู้ ตู้ละ 24-25 ตัน หรือประมาณ 24,000-25,000 กิโลกรัมต่อตู้ และอีกประมาณ 2% เป็นสินค้ามะพร้าวและผลไม้อื่นๆ
พันธมิตรผู้ผลิตผลไม้จำนวน 10 โรงงาน ตั้งอยู่ใน 5 จังหวัดสำคัญของแต่ละภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดลำพูน และจังหวัดราชบุรี สามารถบริหารจัดการสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการให้มากที่สุด โดยแต่ละโรงงานจะมีพนักงานของบริษัทตรวจสอบและควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ถือเป็นหัวใจสำคัญของสินค้าเกรดพรีเมี่ยมที่ส่งออกจาก NTF จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าและคู่ค้ามาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน NTF ยังได้รับความไว้วางใจจาก Dole ผู้ผลิตและจำหน่ายผักผลไม้สดและแปรรูประดับโลก ที่เล็งเห็นศักยภาพให้ NTF รับหน้าที่ผลิตผลไม้ประเภททุเรียนเกรดพรีเมี่ยม (OEM) เจ้าเดียวในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปประเทศจีน โดย Dole ถือเป็นพันธมิตรที่เข้ามาช่วยเติมเต็มตลาด เช่นเดียวกับประเทศเวียดนามที่เข้ามาช่วยส่งเสริมการบริโภคของประชากรจีนให้มากขึ้น อีกทั้ง เชื่อว่าการทำตลาดในประเทศจีนจะนำมาซึ่งการแข่งขันด้านคุณภาพสินค้ามากกว่าด้านราคาเช่นที่ผ่านมาช่วยผลักดันให้ผู้ส่งออกตลอดจนเกษตรกรต้องพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ออกผลผลิต การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการขนส่ง เพื่อให้สินค้าเป็นเกรดพรีเมี่ยมให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้ออย่างแท้จริง
ก้าวต่อไปของ NTF
ความใฝ่ฝันของเราจากนี้คือนำ NTF เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเป็นเงินทุนในการขยายกิจการ พัฒนาสินค้าและโครงการสำคัญที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงิน เพิ่มโอกาสทางการค้าและการต่อยอดธุรกิจในอนาคต จากความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีในการบริหารและมาตรฐานการดำเนินงาน ผ่านกลไกการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์
ปัจจุบัน NTF อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูล(ไฟลิ่ง)เพื่อนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ในปี 2568
การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหนทางข้างหน้ายังมีอะไรอีกเยอะมากที่จะต้องทำให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืน และด้วยความมุ่งมั่นของเราตั้งแต่วันแรกที่ทำธุรกิจ นั่นก็คือต้องการส่งเสริมผลไม้ของเกษตรกรไทยไปสู่ระดับโลกด้วยกัน
“คุณแม่ของผมสอนตั้งแต่เด็กว่าให้ดูเหรียญจีนโบราณด้านนอกเป็นวงกลม ด้านในเป็นสี่เหลี่ยม ความหมายคือเวลาเราทําอะไร ภายนอกความกลมของเราจะสามารถไปได้ทุกที่ หมายความว่าเราปรับเปลี่ยนสถานการณ์ได้ตลอดแต่ภายในของเรา สี่เหลี่ยมนั่นหมายถึงจุดยืนของเราไม่เคยเปลี่ยน จุดยืนต้องมั่นคงแต่ภายนอกปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ นั่นเป็นจุดที่ผมบอกว่าจุดแรกที่ว่าอยากทําธุรกิจคุณต้องรับความเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง”