ดีพร้อมเปิดแผนปี 68 ชู Agro Solutions ปั้นเกษตรมูลค่าสูง
นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เปิดเผยว่า ในปี 2568 ดีพร้อมผลักดันแผน “Agro Solutions” ยกระดับภาคการเกษตรไทยสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรมูลค่าสูง โดยมุ่งยกระดับผลผลิตทางการเกษตรทั้งพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ข้าว และโกโก้ ผักและผลไม้ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย สับปะรด และสมุนไพร ให้มีความโดดเด่นและตอบโจทย์กับการบริโภคในตลาด เชื่อมโยงไปถึงการผลักดันและสร้างมูลค่าซอฟต์พาวเวอร์ในหลากหลายสาขา
พร้อมกระจายพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการเพาะปลูก ผลิต บริการ การสร้างทักษะที่สูงขึ้นให้กับคนในชุมชน และเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าสูงและเหมาะสมกับการใช้ในภาคเกษตรไทย ด้วยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาการเกษตรของไทยให้เป็น Smart Farmer หรือ นักธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ มีการกำหนดรูปแบบ แนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้แก่ผลผลิตการเกษตร ผ่านแนะนำการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนำมาช่วยแก้ปัญหาการทำเกษตรอย่างถูกต้อง
นางดวงดาว กล่าวว่า การสร้างมาตรฐานการผลิตและแปรรูปสินค้าทางการเกษตร โดยจะสร้างตลาดใหม่เป็นศูนย์รวมการกระจายสินค้าทางการเกษตร และสร้างธุรกิจใหม่จากการเกษตร เช่น การนำของเสียจากธุรกิจเกษตรหนึ่ง ไปสร้างมูลค่ากับอีกธุรกิจเกษตร เพื่อผลประโยชน์ที่สูงสุดนำกลับสู่เกษตรกรในรูปแบบของการปันผลจากผลกำไรสุดท้ายที่ได้จากการแปรรูปจำหน่ายในระบบอุตสาหกรรมเกษตรที่สมบูรณ์แบบ
กลไก Agro Solution คือ อัพสกิล รีสกิล สร้างสกิลใหม่ และการพัฒนากระบวนการผลิต รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเปลี่ยนเกษตรกรรมสู่เกษตรอุตสาหกรรมแบบครบวงจร
นายกิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในส่วนของการสร้างขับเคลื่อนการสร้างเกษตรมูลค่าสูงสู่อุตสาหกรรมอนาคต จะเน้นอุตสาหกรรมอนาคต : S-curve เช่น Biochemical Industry และ พัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม ปรับโครงสร้างภาคเกษตร ลดต้นทุนอุตสาหกรรม ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดย กำหนดชนิดและคุณภาพวัตถุดิบในการผลิตของโรงงาน ส่งเสริมการทำเกษตรทันสมัย Precision Farming / Smart Farming การเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ภาคการเกษตร สนับสนุนเครื่องจักรที่ทันสมัย และการบริหารต้นทุนของเกษตรกร สร้างนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม
ผลิตภัณฑ์จากโกโก้ ตัวอย่างการสร้างเกษตรมูลค่าสูง
ที่ผ่านมา ดีพร้อม ได้ดำเนินการกับพืชเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา รวมทั้ง โกโก้ ถือเป็นพืชครบวงจรที่สร้างคุณค่าในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำที่เริ่มจากการปลูกด้วยความใส่ใจ การคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสม และการดูแลที่พิถีพิถัน สู่กลางน้ำที่เปลี่ยนผลผลิตดิบให้กลายเป็นวัตถุดิบคุณภาพผ่านกระบวนการหมัก ตากแห้ง และการคั่วอย่างประณีต จนถึงปลายน้ำที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตระดับพรีเมียม ผงโกโก้เข้มข้น หรือผลิตภัณฑ์ความงามที่เต็มไปด้วยคุณค่าแห่งธรรมชาติ โกโก้จึงเป็นพืชครบวงจรที่เชื่อมโยงทุกกระบวนการเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สร้างทั้งมูลค่าและความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนในห่วงโซ่การผลิต
ประเทศไทยตั้งเป้าเป็นฮับโกโก้ในอาเซียนภายในปี 69
ดีพร้อม ได้วางแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมโกโก้ในระยะ 3 ปี (2567–2569) โดยมีเป้าหมายเพิ่มผลผลิตในแต่ละภูมิภาค เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโกโก้ในอาเซียน คาดว่ามาตรการเหล่านี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท มาตรการส่งเสริมประกอบด้วย
1. การพัฒนาบุคลากรภาคการเกษตร ด้วยการเพิ่มมูลค่าเมล็ดโกโก้ผ่านการแปรรูปที่ตรงตามความต้องการของตลาด และส่งเสริมการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการ ผ่านการสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์และนำเทคโนโลยีเครื่องทุ่นแรงมาใช้ เช่น เครื่องคั่วเมล็ดโกโก้อัจฉริยะด้วยระบบ AI และเครื่องบีบสกัดไขมันเนยโกโก้
3. พัฒนาปัจจัยเอื้อ ซึ่งจะต้องยกระดับมาตรฐานเมล็ดโกโก้และผลิตภัณฑ์ให้เทียบเท่าสากล พร้อมส่งเสริมเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์
4.ส่งเสริมด้านการตลาด นำผู้ประกอบการแปรรูปโกโก้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า และผลักดันเข้าสู่โมเดิร์นเทรดในปี 2568–2569
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาพันธุ์โกโก้ในแต่ละภูมิภาคให้เป็นสินค้า GI เพื่อสร้างแบรนด์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพและอัตลักษณ์ทางรสชาติ พร้อมเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวผ่านซอฟต์พาวเวอร์ เช่น การจัดเทศกาลและส่งเสริมธุรกิจคาเฟ่
ด้วยมาตรการเหล่านี้ ประเทศไทยมีโอกาสก้าวสู่การเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมโกโก้ระดับโลก สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจและชุมชนในทุกภูมิภาค