ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ให้ปลอดภัยและประหยัด

เตาหุงต้มเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุกครัวเรือน เป็นจุดทำอาหารที่สำคัญของบ้านชนิดที่เรียกได้ว่าขาดไม่ได้

โดย.. โยธิน ภาพไม่มีเครดิต

เตาหุงต้มเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทุกครัวเรือน เป็นจุดทำอาหารที่สำคัญของบ้านชนิดที่เรียกได้ว่าขาดไม่ได้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตเตาหุงต้มในครัวเรือนมีการพัฒนาไปมากจนผู้ใช้เกิดความสับสน จากเตาแก๊สมาเป็นเตาไฟฟ้าและเปลี่ยนมาเป็นเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในปัจจุบัน

หลักการทำงานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นจะไม่มีการปล่อยพลังงานความร้อนแผ่ไปในอากาศรอบข้างเหมือนเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าแบบขดลวด แต่จะใช้หลักการหมุนสลับเหนี่ยวนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระหว่างเตากับภาชนะที่เหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ เช่น เหล็กและสเตนเลสที่ออกแบบมาใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อสร้างพลังงานความร้อนให้เกิดขึ้นกับตัวภาชนะโดยตรง

ในขณะที่ตัวเตานั้นจะไม่เกิดความร้อนขึ้นมานอกจากจะเป็นความร้อนที่ส่งผ่านกลับมาจากภาชนะอีกที เมื่อเทียบกับเตาไฟฟ้าแบบขดลวดที่ใกล้จะเลือกผลิตไปแล้วนั้น จะมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและความปลอดภัยสูงกว่า

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เตาแม่เหล็กไฟฟ้ายังมีราคาค่อนข้างสูงแต่ในแง่ของการทำอาหารแล้วถือว่าเป็นเตาที่ให้พลังงานความร้อนโดยตรงกับอาหารสูงกว่าเตาชนิดอื่นๆ ส่งผลให้อาหารสุกเร็วสามารถต้มน้ำให้เดือดได้ในเวลาไม่ถึง 2 นาที เมื่อเทียบกับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าขดลวดที่ต้องใช้เวลาต้มน้ำมากกว่า 10 นาที

เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลากหลายยี่ห้อ แต่สิ่งที่คุณควรดูไว้เป็นหลักๆ ก็คือ

1.เลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงไว้ใจได้

การเลือกที่สินค้าจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจะช่วยรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยให้คุณเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ผู้ขายจะบอกว่าสินค้ายี่ห้อผมผลิตจากโรงงานเดียวกัน แต่เรื่องของวัสดุคุณภาพการประกอบและการตรวจสอบคุณภาพ รวมทั้งการรับประกันหลังการขายนั้นไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน

2.สามารถปรับละเอียดได้

เตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นเป็นเตาที่ให้ความร้อนกับอาหารสูง หลายคนที่ซื้อใช้จะประสบปัญหาอาหารด้านล่างไหม้ก่อนข้างบนจะสุก ดังนั้นควรเลือกเตาที่มีโปรแกรมตั้งค่าทำอาหารที่หลากหลาย แม้ในชีวิตจริงจะใช้ไม่ครบแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้เลือกปรับอะไรได้มากมาย โดยเฉพาะการปรับอุณหภูมิละเอียดเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับแม่บ้านที่เปิดตำราอาหารตามคู่มือ รวมทั้งการตั้งเวลาทำอาหารได้จะเป็นสิ่งที่ดีมากในเมนูประเภทอบหรือนึ่ง.

3.จานเซรามิกต้องหนาและแข็งแรง

จุดนี้เป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นต้องใช้ภาชนะที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับเตาชนิดนี้โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะหนาและหนัก ตัวพื้นจึงต้องมีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษรองรับการวางกระแทกอาหารประเภทผัดต่างๆ ได้ด้วย

ใช้ให้ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน

1.ควรเช็ดก้นภาชนะให้แห้งก่อนทุกครั้งก่อนนำมาตั้งบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เนื่องจากอาจมีน้ำหรือสารเหนี่ยวนำไฟฟ้าไหลมาทำความเสียหาย ตัวเครื่องหรือเป็นอันตรายกับผู้ใช้ได้

2.ควรเตรียมภาชนะให้พร้อมก่อนการประกอบอาหาร เช่น ใส่น้ำหรือน้ำมันก่อนนำภาชนะมาตั้งบนเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะช่วยไม่ให้เกิดรอยไหม้และความเสียหายกับตัวภาชนะ และยังเป็นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มปรุงอาหารอีกด้วย

3.ระวังการนำชิ้นส่วนหรือวัตถุที่เป็นโลหะ เช่น ช้อน ส้อม วางบนแผ่นเซรามิกเพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูงกับตัววัตถุจนเป็นอันตรายกับผู้ใช้

4.ควรวางเตาแม่เหล็กไฟฟ้าห่างจากผนังหรือเฟอร์นิเจอร์อย่างน้อย 10 ซม. เพื่อช่วยระบายความร้อนสะสมที่สะท้อนจากผนังถึงตัวเตา

5.ระวังกระแทกพื้นผิวเซรามิกแรงๆ เนื่องจากเตาเซรามิกค่อนข้างบอบบางพอสมควร

6.ระวังทินเนอร์ แอลกอฮอล์ หรือกรด ใกล้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า สารละลายเหล่านี้สามารถเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้ดี และทำให้ขดลวดแม่เหล็กเสื่อมเร็ว

7.ศึกษาการทำอาหารแต่ละชนิดถึงอุณหภูมิที่ใช้และเวลาในการทำอาหาร ควรลดเวลาลงจากที่เคยทำด้วยเตาแก๊สปกติจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า และคงคุณค่าทางสารอาหารและความอร่อยอีกด้วย

8.ควรเลือกใช้ภาชนะที่ออกแบบสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น จะช่วยป้องกันการไหม้ของอาหารและใช้เตาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

เห็นไหมครับว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นใช้งานได้อย่างไม่ยุ่งยากมากนัก ที่สำคัญเป็นเตาชนิดใหม่ที่กินพลังงานไฟฟ้าไม่สูงเหมือนเตาไฟฟ้าสมัยก่อน มีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับเตาแก๊สแต่ให้ความร้อนสูงกินพลังงานต่ำ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับแม่บ้านยุคประหยัดพลังงาน.

&<2288;