posttoday

การรอคอย ต้องมีวันสิ้นสุด?

08 กุมภาพันธ์ 2558

วันก่อนมีสายโทรศัพท์เบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามาที่เครื่องมือถือของผม แค่เธอเอ่ยคำว่า “สวัสดีค่ะ” ผมก็จำได้แล้วว่าเป็นใคร

โดย...เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข [email protected]

วันก่อนมีสายโทรศัพท์เบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามาที่เครื่องมือถือของผม  แค่เธอเอ่ยคำว่า “สวัสดีค่ะ” ผมก็จำได้แล้วว่าเป็นใคร  จริงๆ  ผมรู้จักเธอเมื่อประมาณแปดปีที่แล้ว จะเรียกว่าคุ้นเคยก็ไม่เชิง ผมไม่ใช่เพื่อนก็เหมือนเพื่อน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ คล้ายกับว่ามีโชคชะตาบางอย่างทำให้ผมรู้จักเธอและได้คุยกับเธอมาจนถึงทุกวันนี้

ผมจำได้ว่าเจอเธอครั้งแรก ที่ จ.สมุทรสาครมันเป็นสถานที่เกิดเหตุแห่งความสูญเสียของเธอ ลูกชายวัย 11 ขวบ ของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมกับเพื่อนอายุ 9 ขวบ
อีก 1 คน ตอนนั้นผมลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุ หาข่าวในบริเวณใกล้เคียง ผมยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ประสบการณ์ตอนนั้นมีไม่มาก พื้นฐานการคิดวิเคราะห์แผนประทุษกรรม
การหายตัวไปของเด็กก็ต่ำมาก ในพื้นที่ดันมีข่าวลือเรื่องแก๊งรถตู้จับเด็กหนาหู จนผมเชื่อไปตามนั้น กลายเป็นผู้สร้างข่าวลือบอกต่อเสียเองว่าลูกของเธอและเด็กอีกคนอาจหายตัวไปด้วยแก๊งรถตู้  คิดแล้วเสียใจถึงทุกวันนี้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์แยกแยะ (ทุกวันนี้ผมไม่คิดว่าลูกของเธอถูกจับตัวไป)

ผมตามหาลูกของเธออย่างต่อเนื่อง จนคิดว่าต้องพึ่งกระบวนการของรัฐ ผมใช้วิธีการกดดันทางสังคมต่อรัฐ (รัฐบาลตอนนั้นเป็นรัฐบาลของ คมช. หลังการรัฐประหาร 2549) ผมรู้ดีว่ารัฐบาลเฉพาะกาลแบบนี้จะทำงานตามกระแสสังคมและก็ได้ผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในสมัยนั้น ลงพื้นที่ไปเยี่ยมเธอที่บ้านพร้อมกับลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเด็กหายรายอื่นๆ อีกหลายครอบครัว มีนักข่าวลงไปติดตามทำข่าวจำนวนมาก ภาพของเด็กหายรวมทั้งภาพลูกชายเธอได้ลงสื่อหลายแขนง แต่ก็ไม่มีเบาะแสกลับมาเลยว่าลูกของเธออยู่ไหน

การรอคอย ต้องมีวันสิ้นสุด?

 

เธอเล่าให้ผมฟังว่า เธอต่อสู้กับความรู้สึกหลายอย่าง คิดถึงและเป็นห่วงลูก ถ้าลูกตายเธอยังทำใจว่าเขาไปสบายแล้ว แต่ลูกหายมันกังวลไปเสียทุกอย่าง ไม่รู้ว่าลูกจะอยู่ยังไง กินยังไง บางวันมีคนมาถามเรื่องลูกชายว่าเจอตัวหรือยัง ก็กลับพูดซ้ำเติมเธอว่า สงสัยถูกขายไปมาเลย์แล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกช้ำใจและเป็นห่วงมากเข้าไปใหญ่  แน่นอนว่าเวลามีใครมาพูดถึงลูกเธอในแง่ร้ายว่าจะถูกขายไปใต้ ถูกจับไปตัดแขนตัดขา เธอจะโทรมาหาผม เธออยากได้ความมั่นใจว่าลูกเธอจะไม่โดนกระทำเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าผมจะบอกเธอว่าลูกเธอจะปลอดภัยและจะกลับมา

จริงๆ เรื่องของเธอเคยทำให้ผมร้องไห้เสียน้ำตามาแล้ว  หลังจากลูกเธอหายไปประมาณ 4 ปี สามีของเธอที่เฝ้าตามหาลูกมาตลอด ข้าวปลาไม่ค่อยกินและเจ็บป่วยเรื้อรังได้เสียชีวิตลง   มันเป็นการเสียชีวิตที่โดดเดี่ยวมาก เพราะสามีของเธอตายภายในบ้านหลังเก่าที่เขายังอยู่รอลูกชายกลับบ้านตามลำพัง เขาไม่ยอมย้ายตามเธอมาอยู่ในเมือง เพราะเขาบอกว่าเผื่อลูกชายกลับมาแล้วไม่เจอใคร สุดท้ายเหมือนเขาตรอมใจตายอยู่ภายในบ้านหลังเดิมอย่างน่าเศร้าสลด  ตอนเธอวางสายหลังจากโทรมาบอกผมว่าสามีของเธอเสียชีวิตแล้ว ผมร้องไห้เสียใจ มันเป็นความรู้สึกว่าเราทำงานไม่สำเร็จ จนต้องเกิดความสูญเสียขึ้นอีกหนึ่งชีวิต

ทุกวันนี้ผมยังตามหาลูกชายของเธออยู่  เวลามีข่าวเรื่องการช่วยเหลือแรงงานหรือจับสถานบริการที่มีการใช้เด็กไปเป็นพนักงาน ผมพยายามดูว่ามีลูกชายของเธออยู่หรือไม่  พยายามที่จะส่งข้อมูลของเด็กคนนี้ไปยังสื่อมวลชนอีกครั้ง เพื่อหวังว่าอาจมีใครทราบเบาะแสหรือแม้กระทั่งตัวเด็กเองอาจเห็นภาพตัวเองในวัยเยาว์ออกสื่อว่าแม่กำลังตามหาเขาอยู่

วานก่อนนี้เธอบอกผมเสียงดังฟังชัดว่า ลูกชายของเธอหายตัวไปแล้ว 8 ปี 2 เดือน 11 วัน

ผมถามย้ำกับเธอว่าจำได้ขนาดนั้นเลยหรอ

เธอตอบผมว่า คนเป็นแม่เฝ้านับเวลาทุกวันที่ลูกหายไป...