posttoday

GU12

23 สิงหาคม 2558

“GU12” อ่านตรงตัวว่า “กูสิบสอง” เป็นนิยามความหมายของกองเชียร์สุดยอดทีมฟุตบอล

โดย...เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข [email protected]

“GU12” อ่านตรงตัวว่า “กูสิบสอง” เป็นนิยามความหมายของกองเชียร์สุดยอดทีมฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยอย่างบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 

GU12 หมายความว่า เมื่อพวกเขาเข้าไปอยู่ในสนามฟุตบอล กองเชียร์เปรียบเสมือนผู้เล่นคนที่ 12 ในสนามเพื่อกดดันคู่ต่อสู้ แม้กระทั่งกรรมการ กองเชียร์จึงเป็นกำลังสำคัญไม่แพ้นักเตะที่วิ่งอยู่ในสนามหญ้า

จริงๆ แล้ว คำว่า GU น่าจะมาจากคำว่า กูกับมึง ตามภาษาบ้านชาวทั่วไป ซึ่งให้ความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน พอมาทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษว่า GU12 ยิ่งทำให้ดูเท่และมีความหมายซ่อนอยู่มากทีเดียว

หลังจากผมเริ่มขับรถเข้าเขต จ.บุรีรัมย์ ก็รับรู้ได้ทันทีว่า มีสัญลักษณ์บางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือสิ่งที่เป็นศูนย์รวมบางอย่างในจังหวัด เริ่มตั้งแต่เวลาขับตามหลังรถที่มีหมวดทะเบียน จ.บุรีรัมย์ จะสังเกตเห็นว่ารถจำนวนมากติดสติ๊กเกอร์ที่กระจกหลังเป็นรูปตราสัญลักษณ์ของสโมสรทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะรถเก่า รถใหม่ รถเก๋งธรรมดาหรือรถหรูราคาแพงก็สามารถพบสัญลักษณ์ทีมฟุตบอลประจำเมืองนี้ได้ไม่ยากเลย แวะเข้าปั๊มน้ำมันก็พบว่ามีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ตามประตูร้านค้าต่างๆ กระทั่งเสื้อที่คนขายของหรือพนักงานสวมใส่ก็เป็นเสื้อฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พอเริ่มเข้าเมือง ยิ่งเห็นป้ายบอกทางไปสนามฟุตบอลไอโมบายสเตเดี้ยม ติดอยู่เกือบทุกมุมเมือง ก็ยิ่งทำให้เห็นความสำคัญว่า ใครๆ ก็มุ่งหน้าไปยังสนามเหย้าของทีมปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแห่งนี้

โชคดีมาก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเดินทางมาทำงานในแถบจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ได้มีโอกาสมาแวะพักที่ จ.บุรีรัมย์ พอดี ไปไหนมาไหนเห็นแต่คนใส่เสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็นึกแปลกใจว่า ทำไมถึงใส่เสื้อบอลกันทั้งเมือง พอได้รับคำตอบจากคำถามที่สงสัย ทำให้ทราบว่าวันนี้เป็นวันที่ทีมบุรีรีมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมสุพรรณบุรี เอฟซี เรียกว่าเป็นบิ๊กแมตช์กันเลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วหากวันไหนที่ทีมบุรีรัมย์ลงสนาม พี่น้องแฟนคลับหรือ GU12 ก็พร้อมใจกันใส่เสื้อทีมบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมเชียร์ทีมอันเป็นที่รัก ไม่ว่าจะไปดูการแข่งขันที่สนามไอโมบายสเตเดี้ยม หรือเฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดอยู่หน้าจอ

บริเวณของสนามที่กว้างขวางและมีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีร้านจำหน่ายของที่ระลึก อีกทั้งในบริเวณเดียวกันยังมีสนามแข่งรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ซึ่งได้มาตรฐานโลก ยิ่งกลายเป็นสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจให้คนมาเยือนเพื่อสัมผัสบรรยากาศและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

บรรยากาศบริเวณสนามไอโมบายสเตเดี้ยม อันเป็นรังเหย้าของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คึกคักเกือบทุกวัน แม้ว่าจะไม่มีโปรแกรมการแข่งขัน เนื่องจากสถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งทัศนศึกษาและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญไปโดยปริยาย หากกล่าวอย่างถึงที่สุดว่า ถ้ามาบุรีรัมย์แล้วไม่ได้มาเยือนไอโมบายสเตเดี้ยม ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึง จ.บุรีรัมย์ ก็คงไม่ผิดนัก

ไม่น่าเชื่อว่า พอก้าวเข้ามาอยู่ในเขตของสนามไอโมบายสเตเดี้ยม ให้ความรู้สึกเหมือนไปเยือนสิ่งปลูกสร้างในต่างประเทศรูปทรงของสนามที่ไม่เหมือนสนามฟุตบอลที่เราเคยพบเห็นทั่วไป อีกทั้งร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเป็น shop แบบทางการหน้าตาสีสันเหมือนร้านขายของที่ระลึกในต่างประเทศ ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศของกลิ่นอายความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการให้เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวไม่น้อยหน้าต่างประเทศเลยทีเดียว

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าผมโชคดีที่เดินทางมาวันที่ทีมปราสาทสายฟ้า มีโปรแกรมการแข่งขันพอดี และเป็นการเจอทีมใหญ่อย่างสุพรรณบุรี เอฟซี ซะด้วย จึงทำให้บรรยากาศก่อนการแข่งขันคึกคักมาก ตั๋วเข้าชมเกมการแข่งขันในโซนข้างสนามเกือบเต็มหมดแล้ว ส่วนโซนหลังประตูยังพอมีที่ว่างอยู่บ้าง ผมเดินทางไปถึงก่อนการแข่งขันประมาณ 1 ชม. ซึ่งนั่นก็ทำให้ต้องวนหาที่จอดรถไกลออกไปพอสมควร เนื่องจากสนามแห่งนี้อยู่นอกเมืองประมาณ 3-5 กม. ส่วนใหญ่แฟนบอลจึงเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว จึงทำให้มีรถจอดในพื้นที่จำนวนมาก (แต่พื้นที่จอดรถกว้างขวางมาก รองรับได้สบายๆ เพียงแต่ต้องเดินไกล หากไปจอดไกล) และมีบางส่วนมาจอดริมถนนยาวเต็มหน้าสนาม เนื่องจากเขาจอดเพื่อให้สะดวกตอนออก เพราะด้านในรถเยอะ ตอนเข้าทยอยมา แต่ตอนออก คงออกพร้อมๆ กันตอนจบเกมการแข่งขัน รถจะติดพอสมควร

บรรยากาศก่อนการแข่งขันคึกคักมาก ผมสัมผัสได้ถึง GU12 อย่างใกล้ชิดขึ้น 90% ของคนที่กำลังเดินอยู่รอบสนามใส่เสื้อทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินขวักไขว่ไปมาก่อนเข้าสนาม ส่วนใหญ่กองเชียร์มีทุกรูปแบบ ทั้งแบบครอบครัว หมู่คณะ เด็กเล็กยันถึงผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ที่เดินอยู่บริเวณสนามมีทั้งผู้มาเข้าชมเกมในสนาม และผู้มาเที่ยวชมบรรยากาศ (ผมทราบเพราะพอเริ่มเกมการแข่งขัน ยังมีคนเดินเล่นอยู่รอบสนามโดยไม่เข้ามาชมเกม)

ระบบรักษาความปลอดภัยของสนามก็เข้มงวดมาก มีมาตรการตรวจบัตรและการเข้าสนามให้ตรงตามเลขที่บัตร ห้ามขวดน้ำหรืออาหารเข้าไปยังที่นั่งด้านใน โดยภายในสนามจะมีสถานที่จัดจำหน่ายและพื้นที่ให้กินอาหารเครื่องดื่ม ก่อนขึ้นไปนั่งในสนาม

บรรยากาศก่อนเริ่มเกม กองเชียร์เริ่มร้องรำทำเพลง และมีเสียงกรี๊ดเป็นระยะๆ เพราะนักฟุตบอลเริ่มลงสนามมาวอร์มร่างกาย ตอนนี้แหละผมเริ่มเห็นแล้วว่า GU12 กำลังแสดงพลังผู้เล่นคนที่สิบสองในสนาม เพราะจำนวนผู้เข้าชมหนาตาจนเกือบเต็มสนาม ซึ่งมันน่าประทับใจและดีใจว่า ฟุตบอลอาชีพของเราเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะระหว่างการแข่งขันมีการประกาศรายได้ค่าบัตรผ่านประตูและการจำหน่ายของที่ระลึกในนัดนี้ แต่ด้วยเสียงเชียร์อันดังลั่นทำให้ผมได้ยินตัวเลขไม่ชัดนัก แต่คร่าวๆ มูลค่ารวมกันทั้งค่าตั๋วและของที่ระลึก น่าจะทำรายได้หลายล้านบาท

ผมนั่งฝั่งกองเชียร์ฮาร์ดคอร์ (เขาเรียกตัวเองว่าอย่างนั้น) ตรงนี้เป็น GU12 ตัวจริง เพราะมีคนนำเชียร์ ปลุกเร้า และมีการตีกลองเข้าจังหวะ สร้างแรงกระตุ้นในการเชียร์ เป็นกลุ่มกองเชียร์ระบบเหนียวแน่นที่ร้องเพลงเชียร์ตลอด และยืนเชียร์เกือบตลอดการแข่งขัน

GU12 มีส่วนร่วมกับการแข่งขันสูงมาก ทั้งการให้กำลังใจ การปลุกเร้าทีม ตลอดจนการกดดันคู่ต่อสู้และกรรมการ เป็นกระบวนการที่มีระบบและการจัดตั้งที่ดีมาก กองเชียร์กลุ่มนี้จะมีส่วนกระตุ้นให้กองเชียร์ระดับปัจเจกคนอื่นๆ มีส่วนร่วมในการตะโกนเชียร์และร่วมกดดันในเกมการแข่งขัน

โกลๆๆๆๆๆๆ คือเสียงตะโกนของ GU12 ในช่วงที่ทีมปราสาทสายฟ้าได้ลูกฟรีคิกหรือลูกเตะมุม ซึ่งลุ้นประตู หรือช่วงที่ทีมฝ่ายตรงข้ามทำฟาวล์ GU12 จะโห่ร้อง และตะโกนว่าใบเหลืองๆๆๆๆ พร้อมกันเสียงดังมาก

ระหว่างนั้นก็สลับร้องเพลงปลุกใจของสโมสร (ทำนองคล้ายๆ เพลงเชียร์ฟุตบอลในต่างประเทศ) ตลอดทั้งเกมโดยไม่มีช่วงเงียบเลย

แต่ใช่ว่าในสนามจะมีแต่ GU12 เท่านั้น เพราะทีมที่มาเยือนจะมีกองเชียร์ติดตามมาด้วย ฝั่งกองเชียร์ของสุพรรณบุรี เอฟซี แม้จะมาไม่มาก แต่ก็ส่งเสียงเชียร์ทีมรักของตนเองตลอด มีช่วงหนึ่งในสนามที่น่าประทับใจมาก กลุ่ม GU12 สายฮาร์ดคอร์ เล่นเวฟชูมือโห่ร้องเป็นคลื่นส่งทอดกันไปรอบสนาม เวฟถูกส่งต่อยาวไปเรื่อยๆ เกือบรอบสนามแล้ว แต่ต้องผ่านกลุ่มกองเชียร์ของสุพรรณบุรี เอฟซี ทุกคนก็ลุ้นว่าคลื่นเวฟจะล่มตรงนี้หรือเปล่าเพราะอาจไม่ได้รับความร่วมมือ ปรากฏว่า พอเวฟวนมาถึงจุดนี้ กองเชียร์สุพรรณบุรีเอฟซีชูมือรับเวฟร้องโห่เสียงดัง จน GU12 ร้องกรี๊ดและปรบมือขอบคุณมิตรภาพที่ส่งต่อกันในการเชียร์กีฬา

หลังจบเกมทีมสุพรรณบุรีเดินมาขอบคุณแฟนบอลเจ้าบ้าน GU12 ฮาร์ดคอร์ พร้อมใจกันตะโกน เรียกชื่อทีม “สุพรรณ” “สุพรรณ” “สุพรรณ” เพื่อเป็นการขอบคุณและให้เกียรติทีมที่มาเยือนอย่างน่าประทับใจ

ผลการแข่งขันวันนั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะสุพรรณบุรีไปได้ 1 ประตูต่อ 0 แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้กว่าความมันส์ในเกมการแข่งขันฟุตบอล คือพลังของ GU12 ที่ทำให้เราปรบมือ ตะโกนเชียร์ ลุ้นเสียงดังทุกครั้งที่ทีมมีโอกาสเข้าทำประตู เป็นความรู้สึกที่สุดยอด และอยากให้ทุกท่านได้มาถึงบุรีรัมย์และสัมผัส GU12 กันสักหนครับ