โกงเงินคนจนโผล่อีก! นิคมเขื่อนอุบลรัตน์
ทุจริตนิคมเขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่นโผล่อีก ป.ป.ท.พบพิรุธอื้อ เบิกจ่ายเงินเกิน 3 ครั้ง เกินกำหนดระเบียบกรมพัฒนาฯชื่อคนเดียวเบิกเงินหลายครั้งต่อเดือน
ทุจริตนิคมเขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่นโผล่อีก ป.ป.ท.พบพิรุธอื้อ เบิกจ่ายเงินเกิน 3 ครั้ง เกินกำหนดระเบียบกรมพัฒนาฯชื่อคนเดียวเบิกเงินหลายครั้งต่อเดือน
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2560 ประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (ชุดปฏิบัติการที่ 15) ที่นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ ในอำเภออุบลรัตน์ อำเภอน้ำพอง และอำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น มีประชากรทั้งสิ้น 104,831 คน 28,962 ครัวเรือน โดยนิคมฯ ได้รับเงินอุดหนุนสงเคราะห์จากกรมพัฒนาสังคมฯ ประเภทเดียว คือ เงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งการเบิกจ่ายต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 นิคมฯ ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง เป็นเงิน 11,700,000 บาท เบิกจ่ายครบจำนวนทั้งสิ้น 65 ฎีกา
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เพื่อสอบถามชาวบ้านที่มีรายชื่อเบิกเงินในพื้นที่ 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 1,2,3 ตำบลบ้านดง และหมู่ที่ 10 และ 13 ตำบลนาคำอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น พบพฤติการณ์ผิดปกติส่อเข้าข่ายทุจริต ดังนี้ 1. ในปี พ.ศ. 2559-2560 ผู้นำชุมชนและประธานกลุ่มชาวบ้านแจ้งแก่ประชาชนในหมู่บ้านหรือสมาชิกกลุ่มว่า หากต้องการเงินสงเคราะห์ของนิคมฯ ให้ลงลายมือชื่อในแบบสำรวจ ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ใบสำคัญรับเงิน (แบบที่ 5) โดยไม่ได้กรอกข้อความและจำนวนเงิน รวมทั้งนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมลงลายมือชื่อมอบให้แก่ผู้นำหมู่บ้าน หรือประธานกลุ่มอาชีพเพื่อนำไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ของนิคมฯ เพื่อเบิกจ่ายเงิน 2. พบผู้มีรายชื่อเบิกจ่ายเงินไม่ได้รับเงินจากนิคมฯ โดยมีบางรายถูกนำรายชื่อไปทำการเบิกจ่ายเงิน 4 ครั้งในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ขณะที่บางส่วนได้รับเงินเพียงบางส่วนเท่านั้น เช่น มีการนำรายชื่อไปทำเอกสารเบิกจ่าย 2-4 ครั้งๆ ละ 3,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 1 ครั้ง ซึ่งระเบียบกรมพัฒนาฯ กำหนดให้การสงเคราะห์ได้ไม่เกิน 3 ครั้งในหนึ่งปีงบประมาณ 3. พบกลุ่มอาชีพทอเสื่อกก หมู่ที่ 13 ตำบลนาคำ เจ้าหน้าที่นิคมฯ ไม่ได้นำเงินสดมามอบให้ด้วยตนเอง แต่โอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มทอเสื่อกก
พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า 4. พบรายชื่อบุคคลรายเดียวกันทำเรื่องเบิกจ่ายเงินในเดือนเดียวกันมากกว่า 1 ครั้ง 5. พบมีการปลอมลายมือชื่อในเอกสารประกอบการเบิกจ่ายใบสำคัญรับเงิน 6. ผู้ได้รับการสงเคราะห์บางรายมีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เป็นผู้ยากไร้ มีความสามารถส่งบุตรไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศได้ โดยบางส่วนเป็นผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล 7. เจ้าหน้าที่นิคมฯ โทรมาซักซ้อมชาวบ้านให้พูดตรงกันว่าได้รับเงินครบถ้วนทุกราย หากถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.สอบถาม และ 8. เมื่อเดือนพ.ย.59 มีการเบิกจ่ายเงินเป็น จำนวนกว่า 3,000,000 บาท แต่ในเดือนก.ค. 60 มีการเบิกจ่ายเงินเพียง 6,000 บาท ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต จะเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ท.มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป