ล้อมคอก!กทม.เพิ่มค่าปรับขี่รถบนทางเท้าเป็น 1,000 บาท เริ่มธค.นี้
"สกลธี" เผยธ.ค.นี้ กทม.เตรียมเพิ่มค่าปรับขี่รถบนทางเท้าเป็น 1,000 บาท ระบุ วังทองหลองแชมป์ พร้อมขยายจุดจับปรับเพิ่มเป็น 233 จุด
"สกลธี" เผยธ.ค.นี้ กทม.เตรียมเพิ่มค่าปรับขี่รถบนทางเท้าเป็น 1,000 บาท ระบุ วังทองหลองแชมป์ พร้อมขยายจุดจับปรับเพิ่มเป็น 233 จุด
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยถึงแนวทางแก้ปัญหาการขับขี่บนทางเท้า เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขับขี่ชนนักเรียนที่ เขตวังทองหลาง ว่า ในเบื้องต้นจะจัดให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลพื้นที่เสี่ยงเช่นหน้าโรงเรียน จุดชุมชน เพิ่มขึ้น และในวันที่ 29 พ.ย.นี้ จะประชุมเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทั้ง 50 เขต เพื่อมอบนโยบายการทำงานทุกเขตเข้มงวดกวดขันในจุดจับปรับที่กำหนดไว้ ทั้งนี้จากเดิมที่ กทม. ดำเนินโครงการ “จับจริง ปรับจริง” แต่ยังคงมีผู้ฝ่าฝืนให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถไปเฝ้าทุกจุดบนถนนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด จึงจะมีการพิจารณาเพิ่มอัตราค่าปรับจากเดิม 500 บาท เป็น 1,000 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มอัตราค่าปรับใหม่ ตั้งแต่เดือนธ.ค. เป็นต้นไป ทั้งนี้ กทม.ได้เริ่มดำเนินการจับปรับมาตั้งแต่เดือนพ.ค.61 แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนมาโดยตลอด
นอกจากนี้จะเพิ่ม จุดจับปรับจากเดิมที่มีอยู่ 115 จุด เป็น 233 จุด โดยเพิ่ม อีก 118จุด และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันจับปรับอย่างจริงจังโดยไม่ต้องรอให้ประชาชนถ่ายคลิปส่งมา เทศกิจสามารถจับปรับได้เลยหากพบความผิดซึ่งหน้า แต่หากประชาชนที่ส่งภาพถ่ายร้องเรียนมายังช่องทางของ กทม. ก็จะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อค่าปรับเพิ่มขึ้นส่วนแบ่งก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
นายสกลธี กล่าวต่อว่า สำหรับสถิติของ กทม.เขตที่มีรถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนขับขี่ขึ้นบนทางเท้าส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชั้นในที่สภาพการจราจรติดขัด โดยเขตวังทองหลาง ซึ่งเป็นเขตที่เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนนักเรียน เป็นเขต ที่ฝ่าฝืนมากที่สุด รองลงมาคือเขตสวนหลวง เขตลาดกระบัง และเขตวัฒนา ตามลำดับ
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ขับขี่บนทางเท้าเนื่องจากสภาพรถติด ส่วนถนนหลักๆ จะมีจุดกลับรถค่อนข้างไกล จึงใช้วิธีขับขี่ย้อนศรบนทางเท้า ส่วนยอดจับปรับผู้กระทำผิด ตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีประชาชนแจ้งร้องเรียน กว่า 10,000 ราย มีการนำปรับและส่งเงินรางวัลให้กับประชาชนแล้ว กว่า 2,000 ราย และค่าปรับที่ กทม.จัดเก็บได้ขณะนี้มากกว่า 4,000,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเข้มงวดมากขึ้นต่อไป