posttoday

อย.แจงไฟเขียวองค์การเภสัชฯผลิตฟาวิพิราเวียร์ใช้เองแล้ว

22 กรกฎาคม 2564

อย.ยันไม่มีหน้าที่รับผิดชอบนำเข้าหรือจัดหาวัคซีนโควิด-19 แต่ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนแล้ว6 รายการพร้อมอนุมัติทะเบียนยาฟาวิพิราเวียร์ ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้วิจัย พัฒนา และผลิตเองแล้ว

เมื่อวันที่22 ก.ค.สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ชี้แจงว่า ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 6 รายการ ได้แก่ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า, วัคซีนโคโรนาแวค, วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, วัคซีนโมเดอร์นา, วัคซีนของซิโนฟาร์ม และล่าสุดวัคซีนโคเมอร์เนตีของไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง

นอกจากนี้ อย. ยังสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ที่ดำเนินการผลิตภายในประเทศ โดยดำเนินการร่วมกับผู้วิจัย ให้การสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ รวมทั้งกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการวิจัย พัฒนา ผลิต และการขึ้นทะเบียนอย่างครบวงจร โดยมีการติดตามขั้นตอนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกรณีที่มีบุคคลเสนอความเห็นพาดพิงการดำเนินงานของ อย. เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ โดยข้อเท็จจริง อย. มีภารกิจในการกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์วัคซีนโควิด-19 มีการพิจารณาอนุญาตวัคซีนโดยคำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย ประสิทธิผล และแผนจัดการความเสี่ยงกรณีเกิดปัญหาการใช้วัคซีน เพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนที่มีมาตรฐานในระดับสากล แต่ อย. ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการนำเข้าหรือจัดหาวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กรณียาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นรายการยาหลักที่ใช้ในการรักษาโควิด-19 ของประเทศไทยในขณะนี้นั้น อย.ได้อนุมัติทะเบียนยาฟาวิพิราเวียร์ ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้วิจัย พัฒนา และผลิตเองแล้ว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะเริ่มกระจายยาให้ผู้ป่วยได้ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ได้กำหนดให้ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์โดยเร็วที่สุด เมื่อมีอาการ