posttoday

กทม.รับมือโควิด-19หลังสิ้นสุดสงกรานต์ห่วง608เสี่ยงรับเชื้อเพิ่ม

18 เมษายน 2565

กทม.บูรณาการความพร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19หลังสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ กังวลกลุ่ม608เสี่ยงรับเชื้อเพิ่มมากขึ้น

นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้บูรณาการความพร้อมในการเตรียมการรองรับผู้ป่วยช่วงหลังสงกรานต์ ด้วยความเป็นห่วงช่วงหลังสงกรานต์ที่อาจจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ทั้งประเทศไม่เฉพาะกรุงเทพมหานครเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงสงกรานต์ที่มีการเดินทางเคลื่อนย้าย ไปพบปะสังสรรค์กัน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูง ในปีนี้จึงได้เตือนให้ประชาชนระมัดระวังตลอดเวลา ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามที่สาธารณสุขกำหนด จะสามารถควบคุมโรคได้ จำนวนผู้ติดเชื้อน้อย ก็จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีอันตรายร้ายแรงน้อยลง แต่หากมีคนติดกันมากๆ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะไปติดกลุ่ม 608 ได้มากขึ้นและมีผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มสูง โดยเฉพาะโรคปอดอักเสบ ที่ต้องห่วงคือ ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งตอนนี้มีไม่มากเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดสูงปีที่ผ่านมา ในปีนี้แม้จะมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องแต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือป่วยเล็กน้อย ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจมีไม่มาก

ในส่วนศักยภาพการรองรับผู้ป่วยช่วงหลังสงกรานต์ กทม. ได้บูรณาการโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกสังกัด ทั้งโรงพยาบาล กทม. โรงพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลเอกชน มีศักยภาพเตียงเพียงพอรับได้ ในส่วนผู้ป่วยสีเขียวหรือสีเหลือง ก็มี CI ที่เตรียมไว้กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ แต่ประชาชนที่จะอยู่บ้านก็ทำได้ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ภายใต้การกำกับดูแลจากบุคลากรสาธารณสุข ทั้งนี้ ในส่วนอัตราครองเตียงของโรงพยาบาลสังกัดกทม. มีการแบ่งส่วนที่รับผู้ป่วยโควิด-19 ไว้ ผู้ป่วยปกติสามารถรักษาหรือผ่าตัดได้ปกติ

สำหรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยยังได้รับการรักษาฟรีทุกราย โดยแบ่งตามกลุ่มระดับอาการ ผู้ป่วยสีเขียว ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย เข้ารับการรักษาได้ฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ได้แก่ บัตรทอง สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม โดยกักตัวที่บ้าน (HI) กักตัวในชุมชน (CI) Hospitel หรือเข้าโครงการ “เจอ แจก จบ” ที่หน่วยบริการใกล้บ้าน, ผู้ป่วยสีเหลือง มีอาการแน่นหน้าอกหายใจลำบาก ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน กลุ่ม 608 กลุ่มนี้เข้ารับรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ และรักษาฟรีกับ UCEP พลัสได้ทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน, ผู้ป่วยสีแดง มีอาการหอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยค หายใจเจ็บหน้าอก มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นากว่า 24 ชม. ค่าออกซิเจนน้อยกว่า 94% กลุ่มนี้เข้ารับรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ และรักษาฟรีกับ UCEP พลัสได้ทุกโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน โดยทั้ง 3 กลุ่ม สามารถติดต่อ ศูนย์เอราวัณ 1669 สปสช.1330 กด 14 กรม สบส.1426 UCEPพลัส 02-8721669

ส่วนการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ดำเนินมาตรการเชิงรุกและเร่งสำรวจผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 เข็มกระตุ้น บริการ ณ จุดฉีดต่างๆ ทั้งในและนอกโรงพยาบาล บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน ให้บริการวัคซีน Pfizer และ AstraZeneca จองผ่านแอปพลิเคชั่น “QueQ” และเปิด Walk in ทั้ง 11 โรงพยาบาลในสังกัดกทม. อย่างต่อเนื่อง โดยยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ ฉีดเข็มที่ 3 แล้วเกือบ 70% อีกกว่า 30% ส่วนหนึ่งติดเชื้อไปแล้ว ต้องรอเวลาอีก 3 เดือน อีกส่วนคือ ยังกลัวและไม่มั่นใจในวัคซีน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ไปทำความเข้าใจแล้ว และที่เหลือยังไม่ครบเวลาฉีด