แก้ไม่จบสี่แยกกล้วยแขกทำ"รถติด-ผิดกฎหมาย"

โดย...ทีมข่าวทั่วไปโพสต์ทูเดย์

กว่า 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ร่วมกับสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จัดระเบียบนักเร่ขายกล้วยทอด หรือในชื่อที่รู้จักกันดีอย่าง “กล้วยแขก” ไม่ให้ลงมาเร่ขายบนถนน เพราะเป็นการกีดขวางการจราจร สร้างความเดือดร้อนกับผู้ใช้รถใช้ถนนในวงกว้าง ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไป การบังคับใช้กฎหมายอ่อนล้าลง รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ปัญหาเดิมจึงกลับมาอีกครั้ง และยิ่งเพิ่มจำนวนผู้ค้ามากขึ้น  

ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนหลานหลวง เล่าว่า ร้านกล้วยแขกแต่ละเจ้าจะใช้กลยุทธ์แข่งกันเร่ขายบนถนน เพราะสามารถขายได้ง่ายกว่าการรอให้คนที่สนใจซื้อจริงๆต้องไปหาที่จอดรถแล้วจึงค่อยเดินมาซื้อที่ร้าน ซึ่งการเร่ขายถุงละ 20 บาท สร้างรายได้เป็นจำนวนมาก เฉลี่ยต่อวันหลักหมื่นบาท เมื่อรายได้จำนวนมากที่เกิดขึ้นทำให้คนเร่ขายแห่กันลงมาบนถนน ทำให้รถติด หรือกระทั่งบางครั้งถูกรถเฉี่ยวชน กลายเป็นความผิดต่อผู้ขับขี่เสียอีก จึงขอเรียกร้องว่าไม่ควรขายกล้วยแขกบนถนน เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น

วิทยา สิงหะไกรวรรณ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดเผยว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับทางร้านค้ากล้วยแขก จากเดิมมีร้านกล้วยแขก 1-2 ร้าน แต่ขณะนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นมาเป็น 10 ร้าน กระจายอยู่ตามสี่แยกหลายแห่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจับกุมและปรับผู้ค้าที่ลงมาเร่ขายบนถนนโดยตลอด แต่ยอมรับว่าไม่สามารถปราบปรามได้หมดสิ้น จับกุมเท่าไหร่ วันรุ่งขึ้นคนขายก็กลับมาอีก นับเป็นปัญหายาวนานมาหลายปี โดยทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ออกจับกุม คนขายจะวิ่งหนีกระจายเข้าไปตามซอยต่างๆทำให้ไม่สามารถจับกุมได้ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าหน้าที่อีกด้วย

สำหรับเรื่องของการค้าขายทางสำนักงานเขตป้อมปราบฯ จะทำหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องของสุขอนามัยเป็นหลัก เช่น น้ำมันที่ใช้ทอด มีการเปลี่ยนใหม่หรือทอดซ้ำไปซ้ำมาหรือไม่ การปรุงแต่งอาหารถูกหลักโภชนาหรือไม่ ส่วนกรณีผู้ค้าลงมาขายบนถนนเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่ผ่านมาทั้งสำนักงานเขตป้อมปราบฯจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมีการจับกุมอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกวันนี้ปัญหาก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ทั้งนี้การจับกุมและปรับ ผู้ซื้อ-ผู้ขายบนถนน จะมีความผิดตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 มาตรา 20 (1) ปรับผู้ขายไม่เกิน 2,000 บาท มาตรา 21 ปรับผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ซึ่งเป็นผู้ซื้อไม่เกิน 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม แนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด ควรมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เชื่อว่าถ้าตำรวจทำงานจริงจังก็จะแก้ปัญหาได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่จิตสำนึกของทุกคน ถ้าไม่มีผู้ซื้อ ผู้ค้าก็ขายไม่ได้ ปัญหาก็จะไม่เกิด

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกทม. กล่าวว่า สมัยเป็นผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้รถใช้ถนนเข้ามาจำนวนมาก จึงได้สั่งห้ามขายโดยเด็ดขาด เพราะการที่มีคนลงมาเดินเร่ขายบนถนนนอกจากจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากหากเป็นจังหวะที่รถยนต์ต้องเคลื่อนตัวออกไป แล้วมีคนจอดรถกลางถนนเพื่อซื้อก็จะทำให้รถคันที่ตามต้องหยุดชะงักตามไปด้วย

โดยจากการตรวจสอบ พบว่ามีการขายบริเวณถนนหลานหลวง  ไปจนถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสี่แยกสะพานขาว ทำให้การจราจรช่วงบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นวงกว้าง

“เรื่องนี้เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ต้องเข้มงวดกวดขันวินัยอย่างเคร่งครัด หากปล่อยไว้จะไม่สามารถแก้หนึ่งในปมปัญหาการจราจรติดขัดได้” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว

ขณะที่ ทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามถึงรายละเอียดแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย กับทางผู้กำกับสน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบในกรณีดังกล่าว โดยทางผกก.ระบุเพียงว่า“ยังไม่สะดวกให้รายละเอียดในขณะนี้”   

ชมคลิป : http://youtu.be/n96PP_6J1K0