posttoday

ศาลให้ประกันผู้ต้องหาเผาพระบรมฉายาลักษณ์

25 กันยายน 2564

ขอนแก่น-เซฟ ขอนแก่นพอกันทีนำผู้ต้องเผาพระบรมฉายาลักษณ์มอบตัว ศาลอนุญาตให้ประกัน เจ้าตัวให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2564ที่บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแกน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน มาประจำการเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในและภายนอกบริเวณทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นอย่างเข้มงวด ภายหลังจากที่ นายวิชรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ พอกันที ได้นำตัวผู้ต้องหาในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ โดยพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาล จ .ขอนแก่น ฝากขังผู้ต้องหาในระหว่างการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและทีมทนายความได้ยื่นเรื่องของประกันตัวผู้ต้องหาต่อศาล จ.ขอนแก่น

ศาลให้ประกันผู้ต้องหาเผาพระบรมฉายาลักษณ์

ทั้งนี้ในช่วงที่นายวชิรวิทย์ พร้อมด้วยนายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความเครือข่ายสิทธิมนุษยชน ได้นำผู้ต้องหาเข้ามอบตัวกลุ่มผู้ชุมนุมได้กำหนดจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้านหน้า สภ.เมืองขอนแก่น ทั้งการเผารูปภาพเพื่อแสดงออกว่าเป็นการกระทำที่ไม่ผิด การชุมนุมปราศรับตามจุดยืนที่ได้มีการชุมนุมเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด ซึ่งภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอส่งตัวนายอัครเดชเข้าทำการควบคุมตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษตามการขออำนาจศาลฝากขังทันที

ศาลให้ประกันผู้ต้องหาเผาพระบรมฉายาลักษณ์

นายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความเครือข่ายเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหาต่อศาล จ.ขอนแก่นศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว ในวงเงิน 35,000 บาท โดยให้มารายงานตัวต่อศาล ทุก 12 วัน หากไม่มาจะมีค่าปรับ70,000 บาท ซึ่งพฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาหาจนนำไปสู่การออกหมายจับคือเมื่อวันที่ 18 ก.ย.64 ที่เกิดเหตุภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถูกเพลิงไหม้ได้มีการกล่าวหาว่าผู้ต้องหาเป็นคนลงมือทำ จนนำไปสู่การออกหมายจับ

ศาลให้ประกันผู้ต้องหาเผาพระบรมฉายาลักษณ์

“การมอบตัวครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจของเจ้าตัว ที่ต้องการขอมอบตัว และให้การปฎิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหาในชั้นพนักงานสอบสวน และจะขอส่งคำให้การเป็นเอกสารตามขั้นตอนของกฎหมายภายใน 25 วันหลังจากนี้ ดังนั้นจากนี้ไปทีมทนายความจากเครือข่ายสิทธิมนุษยชนจะเข้าร่วมพูดคุยกับเจ้าตัวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป”