posttoday

เลือกตั้ง66:อนุชา ย้ำ สามมิตรไม่ได้แตก แค่เลือกทางเดินการเมืองของตัวเอง

13 เมษายน 2566

อนุชา นาคาศัย แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำ กลุ่มสามมิตรไม่ได้แตกหัก แค่เลือกทางเดินทางการเมืองของตัวเอง โว คะแนนนิยมของพรรค ติดอันดับ1ใน3 มั่นใจได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ดันโครงการ โคล้านครอบครัว เป็นนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้ประชาชนได้ประโยชน์

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายโคล้านครอบครัวว่า เป็นโครงการที่ประชาชนได้รับประโยชน์และเป็นผลดีมาก ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว และเห็นผลเป็นนโยบายที่จับต้องได้ และสามารถเปลี่ยนกลไกของประเทศบางส่วนให้กลับมาสู่สภาพที่คนไทยสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเตรียมพิจารณาบรรจุเป็นนโยบายของพรรค

เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกฯของพรรค มีคะแนนส่วนตัวอยู่แล้ว ประชาชนให้ความรัก ความศรัทธา ส.ส.ทุกพื้นที่พยายามช่วยกันทำเรื่องของพรรค เรารู้อยู่การเมืองคือการเมือง ถ้าจะให้ไปบิดเบือนการเมืองก็ไม่ใช่ตน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ คือการเมืองที่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหน เลือกใคร เป็นบริบทที่จะเกิดขึ้นในโอกาสข้างหน้า คงไม่มีใครสามารถไปชี้นำประชาชนได้ แต่ประชาชนจะเข้าใจถึงบริบทของแต่ละพรรคมากขึ้น และเป็นขั้นตอนสุดท้ายคือ การตัดสินใจ
 

เมื่อถามว่าการทำโพลคะแนนนิยมของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในพื้นที่ภาคกลางและทั้งประเทศ มีกระแสนิยมดีขึ้นในระดับที่เท่าใด นายอนุชา กล่าวว่า อยู่ในลำดับ 1-3 ไม่หนีไปจากนี้ของพรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่ที่ว่าช่วงโค้งสุดท้ายจะเป็นอย่างไร มีความมั่นใจว่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้ พรรครวมไทยสร้างชาติเกิดขึ้นมา อยู่ในบริบทที่ไม่ขัดแย้งกับใคร เป็นพรรคที่จะสามารถเดินได้และตอบโจทย์ในเรื่องนโยบายของพรรคที่ทำตอนเป็นรัฐบาลมา อย่างที่บอกว่าทำแล้ว ทำอยู่และทำต่อ ค่อนข้างที่จะสามารถพูดได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม

ถามว่าการจับมือทางการเมืองต่างๆ นายอนุชากล่าวว่า รอให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจก่อน หลังจากที่แยกออกมาจากกลุ่มสามมิตรและอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทางการเมืองกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรเลย เพราะในความเป็นพี่น้องรู้อยู่ว่าอะไรควร ไม่ควร เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว ความรักความผูกพันยังคงมีเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ตามมาคือบริบททางการเมือง ที่ต่างฝ่ายต้องเดินไปสู่ในทิศทางของตนเอง นี่คือสุภาพบุรุษ ไม่มีการฝากความห่วงใยทางการเมืองมาถึง มีแค่ความห่วงใยส่วนตัวในฐานะพี่น้อง เรื่องทุกข์สุข ไม่ใช่เรื่องการเมือง ถ้าเป็นเรื่องการเมืองพวกเราสุภาพบุรุษจริงๆ ไม่มีการคุย อยู่ตรงไหนก็ทำตรงนั้นเต็มที่ คือสิ่งที่พวกเราต้องทำ

ถามอีกว่ามีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่ากลุ่มสามมิตร แตกเพราะ 3 ป.ที่มีความแตกแยกเช่นกัน  นายอนุชากล่าวว่า ไม่จริง เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเลือกทางเดินทางการเมือง คิดว่าตนทำงานกับนายกฯแล้วสบายใจ และเลือกที่จะทำงานกับท่านนายกฯ ท่านให้ความเมตตา สิ่งที่จะทำคือพยายามตอบแทนในสิ่งที่นายกฯมอบหมายและไว้วางใจ และอยากจะทำในสิ่งที่ต้องการทำ เช่นนโยบายโคล้านครอบครัว คือความจำเป็นในฐานะคนที่เป็นนักการเมืองคนหนึ่งควรจะทำ สามารถทำนโยบายให้พี่น้องประชาชนได้มีความสุขและความเจริญในอนาคตต้นมุ่งหวังในเรื่องนี้เป็นหลัก

ขอยืนยัน กลุ่มสามมิตรไม่ได้แตกหักกัน ยกตัวอย่างคนนามสกุลเดียวกันยังอยู่คนละพรรคเลย โดยไม่ขอวิจารณ์ 3 ป. ยืนยันว่า 3 ป.ไม่มียุทธศาสตร์ กล้ายืนยันเพราะอะไรที่พูดออกจากปากของตน ทุกคนรู้อยู่ว่าเป็นคนพูดน้อย ถ้าออกจากปากก็คือทุกคนมั่นใจได้ว่า ไม่มีคำพูดที่เป็นอย่างอื่น พูดน้อยก็เพราะไม่ต้องการพูดอย่าง และวันหน้าจะมาบอกว่ากลืนน้ำลายตัวเอง จะไม่เป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้น ทุกอย่างจะต้องออกมาจากความจริงทั้งหมด นี่คือความแตกต่างพวกเราที่รู้จักตนมานาน