เลือกตั้ง66:เศรษฐา ลั่น เป็นนายกรัฐมนตรี ขอปราบยาเสพติดใน1ปี
เศรษฐา ลั่น พรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล ขอปราบปรามยาเสพติดภายใน 1 ปี ยาบ้าต้องหมดไป ขู่ ยึดทรัพย์ผู้ค้า เผย เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมลุยเอง ย้ำ ไม่ให้ราคาบางพรรคแอบอ้างชื่อ เพื่อไทย ไปตีกินหาเสียงเป็นพรรคพี่น้อง
วันที่19เม.ย. ที่มูลนิธิเจริญเชื้อ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการปราศรัยที่จ.ขอนแก่นว่า ไม่เคยทราบมาก่อนที่จะเข้าสู่การเมือง พี่น้องประชาชนเดือดร้อนกับปัญหายาเสพติดเป็นอย่างมาก ได้ฟังปัญหาเยอะมากมีทั้งผู้ค้ายา มีผู้ป่วย มีขบวนการรัฐด้วยที่ยังไม่ได้บริหารจัดการในพื้นที่ สำหรับผู้ค้ายานั้นก็ต้องบริหารจัดการให้เด็ดขาด พรรคเพื่อไทย ถ้าได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาลจะจัดการปัญหายาเสพติดภายใน 1 ปี ยึดทรัพย์ผู้ค้าให้เร็วขึ้นและโทษต้องหนักขึ้น ต้องมีหลายหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้วย นายกรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นตน หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เราจะนั่งหัวโต๊ะ เป็นเจ้าภาพบริหารจัดการเองในเรื่องยาเสพติดให้หมด
เมื่อถามว่าภายใน 1 ปีที่จะได้เห็นหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นายเศรษฐา กล่าวว่า ราคายาบ้าต้องแพงขึ้น หรือหายไป เรื่องยึดทรัพย์ผู้ค้าผู้กระทำความผิดและการบำบัดรักษาผู้ป่วยต้องเร็วขึ้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะนั่งหัวโต๊ะและบริหารจัดการเอง
เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งในภาคอีสานจะเน้นการหาเสียงโดยระบุว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้อง นำชื่อของพรรคเพื่อไทยไปหาเสียง นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีผลหรือไม่ แต่ที่แน่นอนที่สุดมีการอ้างชื่อพรรคเพื่อไทยแน่นอน ตรงนี้ก็ให้ชัดเจน ไม่มีพรรคพี่ พรรคน้อง ได้บอกบนเวทีปราศรัยเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ไม่มีการจับมือในที่สว่างและที่มืด วันนี้ตัวแทนระดับแกนนำของพรรคได้ลงพื้นที่กันหมด พบปะพี่น้องและปราศรัยหลายๆเวที ไม่มีเวลาไปจับมือกับใครแน่นอน ยืนยันไม่มีพรรคพี่ พรรคน้อง
ถามว่า จะมีการบอกไปถึงพรรคการเมืองที่มีการอ้างชื่อพรรคเพื่อไทย ที่กำลังตีกินกระแสของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ต้องหรอก อย่าไปให้ราคาเลย เขารู้อยู่แล้วเราทำอะไรอยู่ เดินหน้าต่อไป แต่หน้าที่ของตนคือ สื่อสารกับประชาชนว่า ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่มีการเลือกแพ็คคู่ แต่ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
เมื่อถามว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10000 บาทได้ เพราะเหลืองบประมาณเพียง 2 แสนล้านบาท นายเศรษฐา ตอบว่า คิดว่าเริ่มไปกันใหญ่แล้ว เมื่อ10 วันที่แล้ว ก็บอกว่านโยบายนี้เป็นคริปโต มีราคาขึ้นและลง วันนี้ก็มาเรื่องนี้แล้ว ตนว่าอย่าเลย จะเดินหน้าชี้แจงนโยบายกับประชาชน คงไม่ต้องไปให้ราคากับการกล่าวหาเป็นคริปโต และตนก็ชี้แจงไปหลายรอบแล้ว