posttoday

'ชูวิทย์'เปิดศูนย์ต้านกัญชาจนกว่าภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน

03 พฤษภาคม 2566

ชูวิทย์ ใช้พื้นที่ร้านกัญชาเดิมที่เคยถูกสธ.จับเป็นศูนย์ต่อต้านกัญชา จนกว่าภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน- เล็งเดินสายถามจัดยืนนโบบายกัญชาจากทุกพรรคการเมืองที่ลงสนามเลือกตั้ง66

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดแถลงเปิดศูนย์ต่อต้านกัญชา ที่อาคารเมนวิง โรงแรมเดอะ เดวิส ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

นายชูวิทย์ เผย เดิมพื้นที่แห่งนี้ เคยติดสัญญาเช่าที่ตั้งร้านขายกัญชา ขณะนั้นยังไม่ทราบถึงผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นของกัญชา แต่เมื่อครบสัญญา 6 เดือน จึงนำมาเปิดเป็นศูนย์ต่อต้านกัญชาที่เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถมารับเสื้อ สติ๊กเกอร์ เข็มกลัด ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือจะร้องเรียนเรื่องปัญหากัญชา โดยศูนย์แห่งนี้มีตนและเจ้าหน้าที่นั่งทำงาน

สำหรับสถานการณ์กัญชาในประเทศไทย พบ กัญชาจาก สหรัฐฯ ลาว เข้ามามีบทบาทและถูกจำหน่ายตามสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากมีค่าสาร THC สูง เหมาะแก่การพี้ จึงมักใช้เสพในหมู่นักเที่ยว สันทนาการ ขณะที่กัญชาไทย 4 สายพันธุ์ ประกอบด้วย พันธุ์หางกระรอกภูพาน , พันธุ์หางเสือสกลนคร , พันธุ์ตะนาวศรีก้านขาว และพันธุ์ตะนาวศรีก้านแดง ทั้งหมดมีค่า THC ต่ำ เหมาะในทางการแพทย์ สามารถสกัดเป็นน้ำมันได้ 

ปัจจุบัน เกษตรกรที่ปลูกกัญชาไทยยังไม่มีผลผลิตที่ดี เนื่องจากไม่ได้เป็นพืชเศรษฐกิจ ลงทุนสูง และยังไม่มีความรู้ จึงทำให้ผู้ปลูกกัญชาไทยในประเทศไทยขาดทุนทั้งหมด ทำให้เกือบ 80%ของกัญชาที่วางจำหน่ายในประเทศไทย คือ กัญชาจากต่างชาติ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เดิมก่อนปลดล็อค กัญชา ราคาอยู่ที่ 100,000 - 200,000 บาทต่อกิโลกรัม แต่หลังปลดล็อค ราคาอยู่ที่ 2,000 - 3,000 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกิดภาวะล้นตลาด การที่กรมการแพทย์แผนไทยออกใบฟาร์มให้ร้านจำหน่ายกัญชานั้น พบมากกว่า 80 - 90% มีการสวมใบฟาร์ม สวมรอยว่าเป็นกัญชาไทย  หรือลักลอบจำหน่ายกัญชาจากต่างประเทศ 

ขณะที่การจับกุมมีจำนวนน้อยมาก เพียง 25-30 รายเท่านั้น จากกว่า 4,000 ร้านกัญชาที่เปิดจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่รวมจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทั้ง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา ซึ่งมีร้านที่เปิดจำนวนสูงเช่นกัน

นายชูวิทย์ เผย มีนายทุนรายหนึ่ง อักษรย่อ ท. นำเข้ากัญชาจากต่างประเทศ มีการเปิดฟาร์มกัญชาในประเทศไทยเพื่อบังหน้า ซึ่งนายทุนรายนี้มีความใกล้ชิดกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรมว.สาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายชูวิทย์ ชี้ ประเทศออสเตรเลีย คือประเทศที่ใช้กัญชาในการรักษาโรค โดยมีแพทย์เป็นผู้กำหนดการใช้ ซึ่งจะใช้เพียงไม่เกิน 0.5 กรัมต่อวันเท่านั้น แต่ประเทศไทยไม่มีข้อกฎหมายกำหนด ใครมีเงินเท่าไรก็สามารถซื้อมาพี้กันได้ไม่จำกัด จึงอยากถามว่านี่คือกัญชาทางการแพทย์หรือไม่ และหากไม่มีกฎหมายควบคุมกัญชาแล้วจะปลดล็อคมาเพื่ออะไร เพราะปัจจุบันมีผู้เสพกัญชาและให้โทษเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตนจะเดินทางไปสอบถามพรรคการเมืองต่างๆ ถึงความชัดเจนที่จะไม่เอากัญชา ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เยาวราช ก็ไม่ตอบคำถามและเดินหนี ก็ไม่เป็นไร หรือในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางไปถามนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล ที่ตลาดนกฮูก จ.นนทบุรี ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้รับคำตอบแล้วจากนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งแสดงจุดยืนว่า ไม่เอากัญชาแน่นอน

นายชูวิทย์ กล่าวว่า รู้จักทั้งนายเศรษฐาและนายอนุทิน แต่ไม่คิดว่านายอนุทินจะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ แม้จะยอมรับว่า เมื่อก่อนเข้าข้างนายอนุทินเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อเห็นเรื่องโทษของกัญชาแล้วก็เปลี่ยนความคิด หลายๆ คนเปลี่ยนความคิด ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับนายอนุทิน ซึ่งนายอนุทินจะต้องโดดเดี่ยวไปอย่างนี้เรื่อยๆ และไม่มีใครพร้อมไปตกนรกกับนายอนุทิน ยกเว้น “นายชูวิทย์”

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ พัทลุง และตรัง มี ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งใช้กัญชาในการหาเสียง แนะนำตัวผู้สมัคร ตนจึงร้องเรียนให้ ก.ก.ต.เข้าตรวจสอบ ซึ่งยังไม่มีการตอบกลับมา

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เหตุการณ์ความวุ่นวายที่ดินแดงวานนี้ ตนมีทะเบียนบ้าน อาศัยในเขตนี้มากว่า 30 ปี จึงมีสิทธิไปหานายอนุทิน และตั้งใจไปป่วนการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บางช่วงของการแถลง นายชูวิทย์กล่าวพาดพิงนายอนุทินอย่างต่อเนื่อง ระบุว่า เป็นการโจมตีการทำงานของนายอนุทิน ไม่เกี่ยวกับ ส.ส.คนอื่นในพรรคภูมิใจไทย พร้อมเปิดแชทที่มีกับนายอนุทิน ซึ่งเป็นการสนทนาครั้งสุดท้าย คือ การสอบถามเบอร์โทรศัพท์นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ก็ไม่ได้มีการสนทนากันอีกเลย 

นายชูวิทย์ ยังเปิดแชทสนทนากับนายเศรษฐา เพื่อสอบถามจุดยืนของพรรคเกี่ยวกับ “กัญชา” ก็ได้คำตอบว่า ไม่เอากัญชาอย่างแน่นอน ซึ่งนายชูวิทย์ ทิ้งข้อความฝากไปถึงผู้ใหญ่ในพรรคว่า ตนพร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่ขอให้พรรคภูมิใจไทยต้องเป็นฝ่ายค้านเท่านั้น

ตนเชื่อว่า ขณะนี้ พรรคภูมิใจไทยมีคะแนนนิยมลดลง จากประเด็นกัญชาที่ปรากฎตามสื่อ มีให้เห็นอยู่ทุกวันนี้ จึงอยากขอให้คนไทยที่จะไปเลือกตั้ วันที่ 14 พฤษภาคม ตัดสินใจให้ดี อย่าให้คนเลวมาปกครองบ้านเมือง

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ศูนย์ต่อต้านกัญชา จะเปิดต่อเนื่องไปจนกว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล และจะต้องเป็นฝ่ายค้านเท่านั้น จึงจะปิดศูนย์แห่งนี้ หลังจากนี้ จะเดินสายรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรีไปตามจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 13 พฤษภาค นี้ หลังจากเที่ยงวันไปแล้ว ผู้สมัคร ส.ส. จะต้องปิดปาก หยุดการปราศรัย หรือ เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ตามกฎหมายการเลือกตั้ง ตนจึงจะไปวิ่งต่อต้านกัญชาที่ สวนลุมพินี ในเวลา 16.00 น. เพื่อรณรงค์ให้เห็นโทษของกัญชา โดยจะไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีกิจกรรมอะไรบ้างนั้น ยังไม่ขอตอบตอนนี้