เลือกตั้ง66 : “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ชูตั้ง “มหาวิทยาลัยอันดามัน”
เดินหน้าสร้างจุดเปลี่ยนการศึกษาด้วยการ “สร้างคน” เด็กรุ่นใหม่ต้องเรียนใกล้บ้าน “เรียนปริญญาตรีฟรี ไม่มีค่าหน่วยกิต”
“ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมงานปราศรัย เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2566 ณ ลานปูดำ จ.กระบี่ โดยมี “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ “ หัวหน้าพรรค ขึ้นปราศรัยก่อนหน้า และผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ ทั้ง 3 เขต คือ เขต 1 นายธนวัช ภูเก้าล้วน (เคี่ยง) เบอร์ 3 เขต 2 นายสาคร เกี่ยวข้อง เบอร์ 5 และเขต 3 ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล (น้ำผึ้ง) เบอร์ 5 นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตั้งแต่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และนายทวีเกียรติ ใจดี ร่วมปราศรัยอย่างคับคั่ง
ดร.เอ้ สุชัชวีร์ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัย" มีหน้าที่ “สร้างคนวิชาชีพ” ให้มีคุณภาพ และจำนวนมากพอ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม สร้างเศรษฐกิจ เพื่อการแข่งขันของชาติ ดังนั้นจึงต้องมี "มหาวิทยาลัย" อย่างทั่วถึง ครอบคลุม เท่าเทียม และเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ “สร้างคน” ของพรรคประชาธิปัตย์
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องใหญ่โต แต่ต้องอยู่กระจายให้ครบทุกภูมิภาค ไม่เช่นนั้น เด็กไทยในแต่ละพื้นที่ย่อมเสียโอกาสเข้าถึงการศึกษาระดับวิชาชีพ นอกจากประเทศเสียหาย พื้นที่ก็เสียโอกาส วันนี้จังหวัดฝั่งอันดามันยังไม่มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนครบสาขาเลย ทำให้เด็กรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นวิศวกร เป็นหมอ นักบัญชี หรือแม้แต่นักกฎหมาย ต้องไปเรียนไกลบ้าน ที่กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองต่างจังหวัด
ดร.เอ้ สุชัชวีร์ จึงขอคะแนนให้ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ “ยกจังหวัดกระบี่” เพื่อมาช่วยกันผลักดันให้จังหวัดมีมหาวิยาลัยเป็นของตัวเองได้ โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่มีรายได้จากเศรษฐกิจ-การเกษตร -อุตสาหกรรม สูงมากขนาดนี้ “มหาวิทยาลัยอันดามัน” จะต้องเกิดขึ้นเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ “เรียนปริญญาตรีฟรี ไม่มีค่าหน่วยกิต” ซึ่งจะเพิ่มจำนวนประชากรที่เรียนจบปริญญาตรี
ขณะเรียนก็มีงานทำกับภาคธุรกิจ และภาคธุรกิจสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการจ้างงานไปลดหย่อนภาษีได้อีกทาง ดังนั้นการมีมหาวิทยาลัยกระบี่ที่มีสาขาครบวงจรจะเป็นแรงดึงดูดให้ลูกหลานเล่าเรียนในพื้นที่ เมื่อจบการศึกษาจะได้พัฒนาในจังหวัดตนเอง
ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ปราศรัยในตอนท้ายว่า นอกจากตนมาขอคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่แล้ว ยังขอคะแนนสำหรับบัตรเลือกตั้งสีเขียวให้ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ซึ่งตนก็อยู่ในรายชื่อด้วย และมีความพร้อมเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้มีโอกาสเข้าไปผลักดันเรื่องการศึกษาอย่างที่ตั้งใจ ด้วยการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้