เลือกตั้ง66:พิธา ประกาศ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30
พิธา ลั่น พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 อยู่ 2 สมัย รับฟังคนเห็นต่าง คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ทำแน่ เลิกเกณฑ์ทหาร ยุติ รัฐประหารชั่วนิรันดร ปลุกแนวร่วม 14พ.ค. ถึงเวลา ประชาชนฝันใหญ่ ขออย่าเลือกด้วยความกลัว ให้เลือกด้วยความหวัง เพื่อประเทศไทย ไม่เหมือนเดิม
วันที่ 12 พ.ค. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย "คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน" ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.66
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ปราศรัยปิดเวทีว่า ขอประกาศต่อหน้าทุกท่านว่า เวลาของพวกเราได้มาถึงแล้ว เหลือเวลาอีก 2วันเท่านั้น คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน ที่พวกเราจะขีดเขียนประวัติศาสตร์การเมืองไทย กาก้าวไกล ประเทศไทย ไม่เหมือนเดิม พร้อมแล้วที่จะเป็น นายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคน ไม่ว่ามาจากภูมิภาคไหน คนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหญ่ สามารถฝากความหวังไว้ได้
พวกเรามารวมตัวกัน ก็เพราะว่า มีความฝันเหมือนกัน ขอไม่มากทำตามสัญญา เป็นนายกฯ 2 สมัยก็พอ สิ่งที่หลายคนไม่รู้ ความฝันของเราที่รวมกัน เรียบง่ายและหลากหลาย หวังที่จะเห็นประเทศเปลี่ยน แต่สำหรับคนรุ่นใหญ่ ในวันที่คุณเกษียณ คงหวังว่า รัฐบาลจะดูแลคุณ มากกว่าแค่ ไข่ต้มฟองเดียว ถ้าอยู่ในวัยของพ่อคน หวังว่า มันจะจบในรุ่นเรา แค่อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยประชาชน เพื่อประชาชนเท่านั้น
ต้องการเห็นการกระจายอำนาจ แต่ละจังหวัดเลือกตั้งผู้ว่าราชการได้ด้วยตัวเขาเอง ต้องการให้คนเกิดในจังหวัดนั้น แก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเขาเอง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เอาชีวิตเรากลับมาตามหาความฝันและการงานของตัวเอง ความฝันของพวกเราอาจจะใหญ่ แต่ข้อจำกัดทางการเมืองมันใหญ่กว่า ผู้นำทางการเมือง ต้องเป็นนายกฯพร้อมแก้ปัญหาเก่า เผชิญหน้าปัญหาใหม่ พาประเทศไทยไปสู่อนาคตใหม่ด้วยกัน
จะหยุดแช่แข็งประเทศไทยได้ นายกฯคนต่อไป ต้องแก้ปัญหาเก่าที่ติดหล่มมาตลอด 17ปี ที่ผ่านมา เอาประเทศไทย ออกจากความขัดแย้งทางการเมืองได้มี 2 ขยัก คือ ยุติวงจรรัฐประหารชั่วนิรันดร โดยที่เราต้องทำ 3 อย่าง ปฏิรูปกองทัพ อยู่ภายใต้พลเรือน ได้ทหารมืออาชีพ หยุดแทรกแซงกิจการภายในประเทศ คืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภา ยังเข้าใจมีอีกหลายคน เคยเห็นด้วยทำรัฐประหาร เพราะไม่ไว้ใจการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่เชื่อว่า นักการเมืองจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ 8ปีที่ผ่านมา ได้บทเรียนราคาแพงด้วยกัน ประชาธิปไตยไม่มีทางลัด ใช้คนดี ที่ ย.ยักษ์ การันต์ เยอะๆๆ เอาระบบราชการมา คอรัปชั่นเลยแย่ลง
นายพิธากล่าวว่า ผู้นำคนต่อไปต้องพร้อมตัดวงจรรัฐประหาร คืนระบบรัฐสภา ให้รัฐสภาไทย หยุดจากหล่มการเมือง17ปี ไม่ใช่ปัญหาจะจบ เราต้องกล้าเผชิญกับปัญหาใหม่ด้วย เมื่อสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง มาเรื่อยๆ คำถามคือ เราจะสร้างกำแพง หรือ ทำกังหันลม เราต้องการให้เรามาตั้งสติกันใหม่ อย่างมีวุฒิภาวะ ส่งไปถึงคนที่เห็นต่าง ตอนนี้ เรากำลังเผชิญมรดกตกทอดจากคนรุ่นเก่า
หลังวันที่14พ.ค. เราจะร่วมกัน วางอิฐก้อนแรก ลงในประเทศ ทำรัฐสวัสดิการ ทำให้คนทุกคน มากระจายที่ดินให้คนทุกคน ให้คนรุ่นใหม่จบมา มีงานทำ ไม่แพ้ใครในโลกใบนี้ เอาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไปปักบนใจกลางโลก แต่เราจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ถ้าเราไม่แก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ อย่างชัดเจน อย่างที่พรรคก้าวไกลเสนอ
"พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทย ไม่ว่าจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีของท่าน ไม่ว่าวันที่ 14พ.ค.จะเลือกหรือไม่เลือก ก็พร้อมที่จะรับใช้ จะฟังคนที่เห็นต่าง ได้ยิน จะเรียนรู้ จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้น 14พ.ค.เข้าคูหา กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม เลือกอนาคต ไม่ใช่เลือกอดีต เลือกด้วยความหวัง ไม่ใช่ความกลัว คำตอบสุดท้ายชัดเจน ตรงไปตรงมา ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน คำตอบสุดท้ายชัดเจน มีลุง ไม่มีเรา มีเรา ไม่มีลุง 14พ.ค. ได้เวลาประชาชนฝันใหญ่ กาก้าวไกล พาประเทศไทยไปด้วยกัน จะก้าวให้ไกล ต้องก้าวไปด้วยกัน "นายพิธากล่าว