2019 "กัญชา" จ่อผงาด ก้าวสู่ตลาดมูลค่าล้านล้าน

การปรับแก้กฎหมายกัญชาของทั่วโลก ทำให้บริษัทวิจัยในสหรัฐ คาดการณ์ว่าตลาดกัญชามีแนวโน้มเติบโตมีมูลค่าระดับ1.8ล้านล้านบาทในปี 2025

****************************

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

“กัญชา” นับว่าเป็นตลาดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ หลังจากมีความเคลื่อนไหวในการปรับแก้กฎหมายใช้กัญชาทั้งในเชิงการแพทย์และสันทนาการทั่วโลกตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา

สำหรับในเอเชียนั้น “ไทย” แก้กฎหมายใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้เป็นชาติแรกของอาเซียน เช่นเดียวกับ “เกาหลีใต้” ที่เป็นชาติแรกในเอเชียที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ในปี 2018 อีกหลายชาติทั่วโลกก็ขยับแก้กฎหมายเพื่อใช้กัญชาเช่นกัน โดย “แคนาดา” เริ่มบังคับใช้กฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ และ “นิวซีแลนด์” ได้ขยายการใช้กัญชาทางการแพทย์ให้ครอบคลุมมากขึ้นในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีการจัดลงประชามติเรื่องการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการในการเลือกตั้งปี 2020

จากการปรับแก้กฎหมายกัญชาของทั่วโลก ทำให้ แกรนด์ วิว รีเสิร์ช บริษัทวิจัยในสหรัฐ คาดการณ์ว่าตลาดกัญชามีแนวโน้มจะเติบโตจนมีมูลค่าถึง 5.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025

สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ โบ วิทนีย์ รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโสของนิว ฟรอนเทียร์ ดาต้า บริษัทวิจัยตลาดกัญชา เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกัญชาถูกกฎหมายในสหรัฐ มีมูลค่าอยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.38 แสนล้านบาท) ในปี 2018 โดยการจ้างงานในอุตสาหกรรมผลิตกัญชาอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนตำแหน่ง

วิทนีย์ กล่าวว่า เงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมกัญชาภูมิภาคอเมริกาเหนือในปี 2018 อยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.25 แสนล้านบาท) มากกว่าเงินลงทุนของ 3 ปีก่อนหน้านี้รวมกัน โดยรวมแล้วคาดว่าตลาดกัญชาอเมริกาเหนือจะมีมูลค่าทะลุ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 5.2 แสนล้านบาท) ในปี 2019

ทั้งนี้ สหรัฐยังจัดกัญชาเป็นยาเสพติดประเภทเดียวกับเฮโรอีนในระดับรัฐบาลกลาง โดยตอนนี้มีเพียง 2 ใน 3 ของทั้งหมด 50 รัฐ ที่อนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ และมี 10 รัฐ ที่ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ล่าสุดนั้น รัฐนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ วางแผนจะผลักดันการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการให้ถูกกฎหมายได้ในปี 2019 ขณะที่รัฐเพนซิลเวเนียและอิลลินอยส์ ก็กำลังมีกระแสผลักดันเช่นกัน

ไทยนำร่องอาเซียน

ไทยถือว่าเป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการปรับแก้กฎหมายให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า กัญชามีโอกาสสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และมีผลดีต่อการรักษาโรค พร้อมระบุด้วยว่ากัญชาของไทยเป็นกัญชาดีที่สุดในโลก

ด้าน จิม พลามอนดอน รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยคานาบิส กล่าวว่า ปัจจุบันไทยสามารถผลิตกัญชาคุณภาพดีในราคาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับชาติตะวันตก และบริษัทไหนที่กำลังพิจารณากัญชาก็ควรจะเลือกย้ายซัพพลายเชนมาที่ประเทศไทย

ทั้งนี้ การผลักดันกฎหมายกัญชายังเผชิญอุปสรรคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากหลายชาติยังจัดกัญชาเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย และมีบทลงโทษที่รุนแรง โดยสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ค้า

ก่อนหน้านี้มาเลเซียสั่งประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีขายน้ำมันกัญชาเพื่อการแพทย์ด้วยการแขวนคอ ในเดือน ส.ค. แต่อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย ระบุว่า มาเลเซียควรพิจารณาโทษประหารใหม่ เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ซึ่งมีชายคนหนึ่งได้รับโทษจำคุก 15 ปี หลังถูกจับพร้อมกับน้ำมันกัญชาที่ใช้รักษาอาการปวดข้อ ส่วนฟิลิปปินส์ยุคประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ยังเดินหน้าทำสงครามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

เครื่องดื่มผสมกัญชา

จากความคืบหน้าที่มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทั่วโลก ทำให้บริษัทผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่บางแห่งเริ่มหันมาสนใจกัญชามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดนั้น เอบี อินเบฟ ค่ายเบียร์สัญชาติเบลเยียม ร่วมมือกับทิลเรย์ ผู้ผลิตกัญชาในแคนาดา ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,266 ล้านบาท) สำหรับการวิจัยเครื่องดื่มส่วนผสมของกัญชา และไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลให้เอบีอินเบฟ
กลายเป็นบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายที่ 3 ที่ลงทุนหรือร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตกัญชาในแคนาดา

ทั้งนี้ ทิลเรย์ยังเป็นผู้ผลิตกัญชารายแรกที่ออกหุ้นไอพีโอในตลาดหุ้นใหญ่ของสหรัฐ โดยระดมทุนได้ 153 ล้านดอลลาร์ (ราว 4,950 ล้านบาท) เมื่อเดือน ก.ค. 2018

อย่างไรก็ดี ทั้งสองบริษัทยังทำได้เพียงแค่ร่วมมือวิจัยเท่านั้น เนื่องจากการผ่านกฎหมายกัญชาสันทนาการของแคนาดาที่เริ่มบังคับใช้ไปแล้วยังไม่ครอบคลุมถึงการนำกัญชามาดัดแปลงหรือใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม

ทางเลือกใหม่ของยาสูบ

ขณะเดียวกัน กัญชายังกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับอุตสาหกรรมยาสูบ โดยเมื่อไม่นานมานี้ อัลเทรีย เจ้าของแบรนด์บุหรี่มาร์ลโบโร ได้ลงทุน 1,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 5.91 หมื่นล้านบาท) ซื้อหุ้น 45% ในโครนอส กรุ๊ป ผู้ผลิตกัญชาในแคนาดา เพื่อหาโอกาสใหม่สำหรับการฟื้นรายได้ หลังตลาดบุหรี่ในสหรัฐซบเซา เนื่องจากอัตราการสูบบุหรี่ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากการลงทุนของแบรนด์บุหรี่แล้ว การปลูกกัญชายังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ปลูกยาสูบดั้งเดิมด้วย โดย ไมค์ โกเรนสไตน์ ซีอีโอโครนอส เปิดเผยว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างอัลเทรียและโครนอส อาจจุดกระแสให้ซัพพลายเออร์ยาสูบของอัลเทรียหันมาปลูกกัญชามากขึ้น หากมีการผ่านกฎหมายกัญชา ซึ่งปัจจุบันอัลเทรียพึ่งพาการผลิตยาสูบจากเกษตรกรนอกบริษัทนับหลายพันราย

นอกจากนี้ อัลวิน ไท นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า กัญชายังอาจเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรถั่วเหลืองในสหรัฐด้วยเช่นกัน หลังผู้ปลูกถั่วเหลืองได้รับผลกระทบรายได้ลดลงจากมาตรการกำแพงภาษีของจีน

ภาพ เอเอฟพี