ไฟป่าออสเตรเลียรุนแรงเกินควบคุม
สองรัฐใหญ่ในออสเตรเลียเผชิญไฟป่ารุนแรงเกินควบคุม ทางการระดมทหาร 3 พันนายรับมือวิกฤต
สองรัฐใหญ่ในออสเตรเลียเผชิญไฟป่ารุนแรงเกินควบคุม ทางการระดมทหาร 3 พันนายรับมือวิกฤต
สถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียยังยากเกินควบคุม สืบเนื่องจากกระแสลมแรงและอุณหภูมิที่สุดขึ้น โดยวันนี้ ( 4 ม.ค.) พบว่าที่รัฐวิคตอเรียกลุ่มไฟป่า 3 กลุ่มได้รวมตัวกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่มีขนาดเทียบเท่า หรืออาจใหญ่กว่าเขตแมนฮัตตัน ของมหานครนิวยอร์ก
รายงานระบุว่ากลุ่มไฟป่าขนาดใหญ่นี้เกินขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนในภูมิภาค East Gippsland เปลวเพลิงกินพื้นที่มากถึง 6,000 เฮกเตอร์ หรือ 37,500 ไร่
ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าครั้งนี้ พบเปลวเพลิงกระจายตัวไปหลายภาคส่วนของรัฐ แต่ที่น่าห่วงคือบริเวณภูมิภาค Wollondilly ทางใต้ของนครซิดนีย์ ราว 287 กิโลเมตร เนื่องจากไฟป่าขนาดใหญ่กำลังสร้างระบบภูมิอากาศขึ้นด้วยตัวเอง จากการที่ควันไฟร้อนที่ลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ควันเย็นตัว จับกลุ่มกับไอน้ำกลายเป็นเมฆฝนฟ้าคะนอง และเกิดลมพายุแนวดิ่ง เกิดฟ้าผ่ารุนแรง ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าในส่วนอื่นๆอีกระลอก
ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์เตือนประชาชนเตรียมรับมือผลเลวร้ายที่สุด หากยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าในรัฐได้ ด้วยการอพยพประชาชนครั้งใหญ่ทั่วทั้งรัฐ
ทั้งรัฐนิวเซาท์เวลส์และวิคตอเรีย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้อำนาจพิเศษและระดมทรัพยากรเพิ่มเติมในการต่อสู้กับไฟป่า
หลายพื้นที่ของทั้งสองรัฐเผชิญกับอุณหภูมิสูงทุบสถิติ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครซิดนีย์มีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศา ขณะที่กรุงแคนเบอร์ร่า (ACT) มีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติถึง 44 องศา เมื่อเวลาราว 16.00น. ร้อนที่สุดในรอบ 80 ปี
สถานการณ์ไฟป่าในครั้งนี้ทางการออสเตรเลียยอมรับว่าเกินการควบคุมแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศระดมทหารถึง 3,000 นาย เข้ารับมือวิกฤตของทั้งสองรัฐ ในการเข้าควบคุมไฟรวมถึงการอพยพประชาชนในหลายพื้นที่
ถึงตอนนี้ ..ไฟป่าออสเตรเลียรุนแรงแต่ไหน?
สถานการณ์ไฟป่าออสเตรเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนของปีที่แล้ว และรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องจากปัจจัยเหตุสภาพอากาศที่ร้อนจัดทั่วประเทศและภัยแล้งรุนแรงเป็นประวัติการณ์
- ยอดเสียชีวิต
ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดจนถึงตอนนี้อยู่ที่ 23 ราย จำนวนนี้ 17 รายอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รวมถึงนักดับเพลิง 3 คน มหาวิทยาลัยซิดนีย์คาดว่าตัวเลขสัตว์ที่ตายจากไฟป่าอาจมากถึง 480 ล้านตัว
- ขนาดความเสียหาย
นับตั้งแต่เหตุไฟป่าเริ่มช่วงกลางปีที่แล้ว ประเมินว่าเพลิงได้เผาผลาญพื้นที่มากกว่า 6 ล้านเฮกเตอร์ หรือราว 60,000 ตร.กม. ซึ่งนั่นใหญ่กว่าประเทศเบลเยี่ยมถึง 2 เท่า ขณะที่มีบางรายงานบอกว่าไฟป่าบางส่วนสูงถึง 70 เมตร โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์หนักที่สุดมากกว่า 36,000 ตร.กม. และอีกไม่น้อยกว่า 9,000 ตร.กม. ในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งขณะนี้ทั้งสองรัฐสถานการณ์ยังคงดำเนินอยู่
หากเทียบกับคราวเหตุไฟป่าอะเมซอน ซึ่งเผาไหม้พื้นที่ไป 8 พัน ตร.กม. แต่สำหรับป่าอะเมซอนในบราซิลมีความสำคัญเนื่องจากเป็นปอดของโลกและเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากชนิด
- สิ่งปลูกสร้าง
บ้านเรือนมากกว่า 1,500 หลังถูกเผาวอด แต่คาดว่าตัวเลขนี้จะยิ่งสูงขึ้นเพราะสถานการณ์ยังคงไม่สามารถควบคุมได้และยากจะคาดเดา นักดับเพลิงรวมถึงอาสาสมัครหลายพันคนต่อสู้กับไฟป่า นับตั้งแต่เดือนกันยายน กระทั่งในวันนี้ (4 ม.ค.) รัฐบาลประกาศระดมกำลังทหารกองหนุน 3,000 นาย เข้ารับมือวิกฤต ซึ่งเป็นการระดมกำลังทหารครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปในปี ออสเตรเลียเคยเผชิญไฟป่ารุนแรงมาแล้วในรัฐวิคตอเรียเมื่อปี 2009 ครั้งนั้นคร่าชีวิตคนไปถึง 173 ราย นับเป็นไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ เหตุการณ์ครั้งนั้นเรียกว่า "Black Saturday"