หมอญี่ปุ่นเตือน ใส่หน้ากากกันเชื้อช่วงหน้าร้อน เสี่ยงฮีทสโตรคกว่าปกติ

หนังสือพิมพ์ไมนิจิ ชินบุนรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของญี่ปุ่นต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้หน้ากากป้องกันเชื้อท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีโอกาสทำให้ผู้สวมใส่เกิดความเสี่ยงอันตรายจากฮีทสโตรคหรือโรคลมแดด ขณะเดียวมีรายงานด้วยแล้วว่า ในญี่ปุ่นพบจำนวนผู้ป่วยจากอาการฮีทสโตรคและโรคลมแดด พุ่งขึ้นทำลายสถิติในปีนี้เรียบร้อยแล้ว

รายงานระบุว่า แม้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของญี่ปุ่นจะอยู่ราว 25 องศาเซลเซียส หรืออาจสูงกว่านั้น ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิเฉลี่ยโดยทั่วไปในช่วงฤดูร้อน แต่กลับพบว่ามีตัวเลขของผู้คนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการฮีทสโตรคเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนหน้าแล้ว โดยระหว่างวันที่ 1 ถึง 13 พฤษภาคม มีชาวกรุงโตเกียวอย่างน้อย 54 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการดังกล่าว ยังไม่นับรวมตัวเลขผู้ป่วยด้วยอาการดังกล่าวจากพื้นที่อื่นๆของประเทศ โดยสำหรับคนป่วยฮีทสโตรคในโตเกียวเพิ่มขึ้นถึง 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019

สำหรับภูมิภาคหลักอื่น ๆ ในพื้นที่รอบมหานครโตเกียวอย่าง เมืองโยโกฮาม่าพบผู้ป่วยโรคลมแดดอย่างน้อย 13 ราย เพิ่มขึ้น 5 รายจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนที่เมืองไซตามะพบเจ็ดรายเพิ่มขึ้นสองราย โดยพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างทำกิจกรรมนอกบ้านไปพร้อมๆกับการใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโควิด

ขณะเดียวกันทางการญี่ปุ่นคาดว่า ช่วงกลางฤดูร้อนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงที่อากาศทั่วประเทศเผชิญสภาวะร้อนจัด อุณหภูมิทั่วประเทศอาจสูงเกิน 30 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวเลขผู้ป่วยฮีทสโตรคในข้างต้นเพิ่มสูงขึ้นอีก ทีมแพทย์ญี่ปุ่นระบุว่า ความอ่อนเพลียจากความร้อนนอกจากส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำแล้ว ความอึดอัดจากการใส่หน้ากากก็เป็นส่วนที่ทำให้ความร้อนถูกสะสมภายในร่างกายจนเสี่ยงอันตราย

"ความร้อนมีแนวโน้มสะสมในร่างกายมากขึ้นขณะที่ผู้คนสวมหน้ากาก ... เมื่อเราสวมหน้ากากความชื้นจะสะสมอยู่ภายในหน้ากาก ซึ่งจะหลอกร่างกายเราให้ไม่รู้สึกถึงความกระหายน้ำ นั่นจึงนำไปสู่ความเสี่ยงจากภาวะขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว" Masuji Hattori แพทย์ประจำวิทยาลัย Hyogo College of Medicine กล่าว

ทีมแพทย์ญี่ปุ่นแนะนำว่า ให้ผู้คนหมั่นดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะขาดน้ำและเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย แต่ไม่แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมถึงแนะนำสำหรับกลุ่มเสี่ยงฮีทสโตรคเปลี่ยนมาออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่ไม่ออกแรงมากภายในร่ม ทั้งแนะว่าให้การใส่หน้ากากเป็นวิจารณาณส่วนบุคคล โดยให้แต่ละบุคคลปรับใช้วิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด