posttoday

เราควรกังวลกับสายพันธุ์ "มิว" (Mu variant) หรือไม่?

05 กันยายน 2564

การปราฏตัวของ "มิว" กำลังทำให้โลกหวั่นใจ มันกำลังค่อยๆ ระบาดในสหรัฐจนเกือบทั่วแล้ว

1. สายพันธุ์มิว (Mu) หรือที่เรียกว่าสาย B.1.621 หรือ VUI-21JUL-1 เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของโคโรนาไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ตรวจพบครั้งแรกในโคลัมเบียในเดือนมกราคม 2564 และองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ (VOI) แต่ยังไม่ใช่ตัวแปรที่น่าเป็นห่วง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2564

2. WHO กล่าวว่าสายพันธุ์ดังกล่าวมีการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการดื้อต่อวัคซีนในปัจจุบันและเน้นว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจดีขึ้น มีรายงานการระบาดของสายพันธุ์มิวในอเมริกาใต้และยุโรป สาย B.1.621 มีสายย่อย B.1.621.1 ซึ่งตรวจพบแล้วในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และเสนอให้เรียกชื่อง่ายๆ ว่า "Mu variant"

3. จีโนม Mu มีจำนวนการกลายพันธุ์ทั้งหมด 21 ครั้ง แต่การกลายพันธุ์ของไวรัสไม่ใช่เรื่องใหม่ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีผลสืบเนื่อง แต่บางส่วนสามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเพื่อทำให้ไวรัสเหล่านี้มีความรุนแรงมากขึ้น หรือหลีกเลี่ยงการรักษาหรือผลต้านทานของวัคซีนได้

4. การศึกษาหนึ่งในห้องแล็บในกรุงโรมได้ทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีน BioNTech-Pfizer กับสายพันธุ์มิวและพบว่า "แม้จะมีการกลายพันธุ์หลายครั้งในสไปค์ แต่สายพันธุ์มิว (SARS-CoV-2 Mu) นั้นถูกทำให้เป็นกลางโดยแอนติบอดีที่กระตุ้นด้วยวัคซีนของ Pfizer " ด้วยประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์อื่น หมายความว่าวัคซีนของ Pfizer เอามันอยู่แต่ด้วยประสิทธิภาพที่ลดลง

5. ผลการทดลองนี้ทำให้ทีมนักวิจัยเน้นถึง “ความสำคัญของการกักกันผู้คนอย่างเหมาะสมหลังจากเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของสาย SARS-CoV-2 ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ไปยังประเทศต่างๆ” และแม้จะมีการทดลองดังกล่าวแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าสายพันธุ์มิว จะสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันจากวัคซีนได้หรือไม่

6. อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน The Lancet Infectious Diseases เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ชี้ให้เห็นว่าสายพันธุ์มิว มี "สองกรณีที่สามารถหลบเลี่ยงวัคซีนได้" โดยรายงานชี้ว่า การกลายพันธุ์ของสไปค์หลายครั้งภายในมิว “มีรายงานว่ามีการลดของการทำให้เป็นกลางโดยแอนติบอดี” (การทำให้เป็นกลางก็คือการทำให้ไวรัสเป็นศูนย์นั่นเอง)

7. รายงานยังระบุว่า ยังพบว่ามีการกลายพันธุ์ของมิวในสไปค์เดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองของวัคซีนที่อ่อนแอลงในสายพันธุ์เบตา และตามรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป สายพันธุ์มิวยังมีการกลายพันธุ์ซึ่งพบได้ในตัวสายพันธุ์เดลตา

8. การศึกษาก่อนพิมพ์เผยแพร่ฉบับหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยนักวิชาการในวงการกล่าวว่าแม้ว่าสายพันธุ์มิวยังไม่ได้รับการจัดประเภทเป็น 'ตัวแปรที่น่ากังวล' โดย WHO การกลายพันธุ์ที่พบในสายพันธุ์ B.1.621 อาจมี “ผลกระทบที่เสริมฤทธิ์กันต่อคุณลักษณะต่างๆ เช่น การลดการป้องกันที่เกิดจากวัคซีนจากโรคร้ายแรง การแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้น และความรุนแรงของโรค”

9. อาการหลักของ COVID-19 ตามที่ระบุโดยสำนักงานบนิการสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ มีดังนี้ 1) อุณหภูมิสูง สัมผัสที่หน้าอกหรือหลัง 2) อาการไอต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง หรือไอยาวๆ ต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไปใน 24 ชั่วโมง 3) สูญเสียหรือเปลี่ยนความรู้สึกรับกลิ่นหรือรส

10. สำหรับประวัติการระบาด มิวได้รับการรายงานครั้งแรกในโคลัมเบียในเดือนมกราคมและเราพบในเอกวาดอร์ในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นก็ได้รับความสนใจของเราเนื่องจากมีการกลายพันธุ์หลายอย่างที่คล้ายกับเบตา และบางตัวมีความคล้ายกับสายพันธุ์ไอโอตา, เดลตา, อัลฟา และอีตา

11. เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ญี่ปุ่นยืนยันผู้ติดเชื้อมิว 2 รายแรก พบมิวในผู้หญิงอายุ 40 ปี ซึ่งเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันที่ 26 มิถุนายน ผู้หญิงอีกคนหนึ่งอายุ 50 ปี ซึ่งเดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม สหราชอาณาจักรก็พบมิวเช่นกัน ผู้ป่วยทั้งสองไม่มีอาการ

12. วันที่ 2 กันยายน ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดกลาง (CECC) ได้ประกาศพบกรณีมิวครั้งแรกของไต้หวันผู้ป่วยเป็นหญิงชาวไต้หวันในวัย 60 ปีที่กลับมาจากสหรัฐอเมริกาและได้รับวัคซีน Pfizer 2 โดสแล้ว เธอได้รับ Pfizer เข็มแรกในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม และครั้งที่สองในวันที่ 26 กรกฎาคม เมื่อเธอกลับมาที่ไต้หวันในวันที่ 3 สิงหาคม เธอไม่รายงานอาการใดๆ แต่การทดสอบที่สนามบินเปิดเผยว่าเธอติดเชื้อโควิด

13. วันที่ 3 กันยายน ฮ่องกงยืนยัน 3 รายแรกที่ติดเชื้อมิว ผู้ป่วย 2 ราย เป็นชายอายุ 19 ปี และหญิงอายุ 22 ปี บินมาจากโคลอมเบียและได้รับการยืนยันว่าติดมิว เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นหญิงอายุ 26 ปี เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เธอได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม

14. เกาหลีใต้ยืนยันผู้ติดเชื้อมิวคนแรกของประเทศ สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KDCA) กล่าวว่ามีผู้ติดเชื้อมิว 3 กรณีนำเข้าจากเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และโคลอมเบีย

Photo - Courtesy C. Goldsmith, P. Feorino, E. L. Palmer, W. R. McManus/CDC