ส่องทักษะการต่อสู้ของปูติน ดวลตัวต่อตัวไหวไหม?
อีลอน มัสก์ จะสู้ได้ไหมเมื่อท้าดวลปูตินตัวต่อตัว แถมยังต่อให้ ใช้มือข้างที่ไม่ถนัด
ในขณะที่รัสเซียยังไม่ตอบรับคำท้าของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลกเจ้าของ Tesla และ SpaceX ซึ่งได้ท้าดวลกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียแบบตัวต่อตัวเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมียูเครนเป็นเดิมพัน
I hereby challenge???????? ????? to single combatStakes are ???????
— Elona Musk (@elonmusk) March 14, 2022
รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนที่สวามิภักดิ์กับรัสเซีย และมือขวาคนสำคัญของปูติน ได้โพสต์ข้อความยาวเหยียดบน Telegram โดยเตือนอีลอน มัสก์ ซึ่งเขาเรียกว่าอีโลนา (Elona) ว่าอย่าท้าทายผู้นำรัสเซีย
"กระดูกมันคนละเบอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของศิลปะการต่อสู้หรือยูโด แต่มัสก์เป็นแค่นักธุรกิจและนักเลงคีย์บอร์ดบนทวิตเตอร์ แต่ปูตินเป็นนักการเมืองระดับโลก นักยุทธศาสตร์ และศัตรูตัวฉกาจของชาติตะวันตกและสหรัฐอเมริกา เขาจะดูไม่มีน้ำใจนักกีฬาไปหน่อยนะถ้าเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่า"
"คุณควรจะต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเพื่อเปลี่ยนตัวเองจาก "อีโลนา" ผู้บอบบาง เป็นอีลอนที่โหดเหี้ยม" คาดีรอฟกล่าว
Thank you for the offer, but such excellent training would give me too much of an advantage. If he is afraid to fight, I will agree to use only my left hand and I am not even left-handed.Elona
— Elona Musk (@elonmusk) March 15, 2022
ขณะที่มัสก์เย้ยด้วยการเปลี่ยนชื่อบนทวิตเตอร์เป็น Elona Musk (อีโลนา มัสก์) พร้อมระบุว่า "ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่การฝึกซ้อมอาจทำให้ผมได้เปรียบปูตินมากเกินไป ถ้าเขาไม่กล้าสู้กับผม ผมต่อให้ด้วยการใช้มือซ้ายมือเดียวเลย ทั้งที่ผมไม่ถนัดซ้ายด้วยซ้ำ"
He can even bring his bear
— Elona Musk (@elonmusk) March 15, 2022
ก่อนหน้านี้มัสก์ยังแซวอีกว่า "ปูตินจะเอาหมีมาด้วยก็ได้นะ"
สู้ปูตินได้จริงหรือ?
แม้ว่าจะเป็นไปได้ยากมากที่ทั้งสองจะเปิดศึกกันขึ้นมาจริงๆ แต่เรามาลองดูทักษะการต่อสู้ของปูตินว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมมัสก์ถึงไม่กลัวเลยสักนิด
อย่างที่หลายคนทราบ ปูตินเป็นนักยูโดสายดำ ชั้น 8 หรือ 8 ดั้ง ซึ่งถือเป็นชั้นระดับสูงสุดอันดับ 3 และยังเป็นชาวรัสเซียคนแรกที่ได้ระดับ 8 ดั้ง ในปี 2012 ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ยูโดนานาชาติ (IJF) แต่ล่าสุดปูตินถูกปลอดออกจากทุกตำแหน่งใน IJF แล้ว โดยให้เหตุผลเนื่องจากสงครามความขัดแย้งกับยูเครนที่ดำเนินอยู่
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ปูตินมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามในมุมมองของสาธารณชน ไม่ใช่แค่ในรัสเซียเท่านั้น แต่เป็นที่โจษจันในระดับโลก ปูตินมีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้หลายแขนง เช่น แซมโบ, ยูโด, คาราเต้ ซึ่งปูตินเคยเป็นแชมป์กีฬาแซมโบและยูโดของนครเลนินกราดด้วย
ปูตินชื่นชอบกีฬาเอกซ์ตรีมและกิจกรรมที่อันตราย อย่างเช่น การขี่ม้า ล่องแก่ง ล่าสัตว์อย่างหมีขั้วโลก วาฬ และเสือ หรือการว่ายน้ำในแม่น้ำไซบีเรียที่เย็นยะเยือกโดยไม่สวมเสื้อก็ทำมาแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปูตินมีความกล้าหาญและแข็งแรงมากจริงๆ
เป็นที่ทราบกันดีว่าปูตินเคยเป็นสายลับ KGB มาก่อน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหน่วยสุดโหด แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับภารกิจที่ปูตินได้รับมอบหมายจาก KGB มากนัก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่เคยทำงานใน KGB มักไม่พูดถึงอดีตของพวกเขา เพราะพวกเขารู้ว่ามันจะทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย
แต่สื่อต่างประเทศเปิดเผยว่าหน่วยสืบราชการลับ KGB ทำหน้าที่เหมือนกับหน่วยข่าวกรองหรือสายลับอื่นๆ ของโลก คือ การดูแลด้านข่าวกรอง การป้องกันประเทศ แฝงตัวเข้าไปในหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญ และจำกัดบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคง พวกเขาถูกฝึกให้สอดแนม พรางตัว ต่อสู้ และลอบสังหาร
พวกเขาต้องเรียนรู้หลายภาษา รวมถึงทักษะด้านข่าวกรอง ทักษะการสืบสวน ยิงปืน ศิลปะการต่อสู้ การต่อสู้ระยะประชิด เรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีและทริคต่างๆ เพื่อเอาชนะศัตรู
นอกจากนี้นิตยสาร Forbes ได้จัดอันดับให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกในปี 2013 ถึง 2015 โดยอธิบายว่าเขาเป็น "บุรุษเพียงไม่กี่คนบนโลกที่ทรงอิทธิพลพอจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ"
ส่วนมัสก์ก็เคยฝึกศิลปะการต่อสู้หลายแขนงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ไม่ว่าจะเป็น เคียวคุชินคาราเต้ เทควันโด ยูโด และบราซิลเลี่ยนยูยิตสู
เว็บไซต์ HITC ระบุว่าหากการประลองเกิดขึ้นจริง (ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้) แม้ว่าปูตินจะมีประสบการณ์ด้านศิลปะการต่อสู้ถึงระดับสายดำ แต่มัสก์จะได้เปรียบเพราะส่วนสูงและน้ำหนักของเขา ซึ่งมัสก์สูง 188 ซม. และน้ำหนักมากกว่า 80 กก. ส่วนปูตินสูงประมาณ 168 ซม. และหนักราว 70 กก. ทั้งคู่ยังมีอายุห่างกันถึง 19 ปี ซึ่งปีนี้ปูตินย่างเข้า 70 ปีแล้ว
Photo by Sputnik/Mikhael Klimentyev/Kremlin via REUTERS