คาดค่าเอฟทีไฟฟ้าพุ่งต่อเนื่อง

กฟผ.คาดการณ์แนวโน้มค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปียังพุ่งต่อ หลังราคาเชื้อเพลิงย้อนหลังเฉลี่ยยังอยู่ระดับสูง

นายสุทัศน์  ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) รอบเดือนก.ย.-ธ.ค.2555 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น  เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยย้อนหลัง6เดือนที่ใช้เป็นสูตรคำนวณค่าเอฟทียังอยู่ในระดับสูง โดยราคาน้ำมันในช่วงนี้ที่ปรับลดลงจะไปมีผลต่อค่าเอฟทีต้นปี 2556  นอกจากนี้ภาครัฐยังต้องจ่ายชดเชยให้กับกฟผ.ที่เข้ามาช่วยรับภาระค่าเอฟที ซึ่งมีภาระสะสมอยู่ 1.4 หมื่นล้านบาท

สำหรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงนี้ที่ปรับลดลงเฉลี่ยต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล   แต่ถ้าเทียบกับราคาเชื้อเพลิงย้อนหลัง6เดือน ยังอยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 300 บาท/ล้านบีทียู  ซึ่งยังเป็นราคาที่สูง ดังนั้นค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีนี้คงไม่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันทันที แต่จะไปมีผลในต้นปีหน้าในทางกลับกันค่าเอฟทีมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอีก

ทั้งนี้การคำนวณค่าเอฟทีรอบเดือนพ.ค.-ส.ค. 2555  ที่ผ่านมาเดิมจะต้องปรับขึ้นท่ากับ 57.45 สต./หน่วยหรือคิดเป็นวงเงินประมาณ  3.08 หมื่นล้านบาท  แต่ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเลเตอร์) เห็นว่าหากประกาศค่าเอฟทีในอัตราดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อประชาชน  จึงให้ปรับค่าเอฟทีขึ้นเพียง30 สต.หน่วย โดยไปหาแนวทางในการลดค่าเอฟทีโดยนำเงินส่วนลดจากปัญหาแหลางก๊าซฯ เยตากุนหยุดจ่ายในช่วง 8-18 เม.ย. 2555 จำนวน  1,418 ล้านบาท และเงินปรับลดการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้าทั้งสามแห่ง ในช่วงปี 2551-2553 จำนวน 3,087 ล้านบาท  พร้อมกับประกาศตรึงค่าเอฟทีไว้เพียง1เดือนคือเดือนพ.ค. 2555 ที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกันให้ กฟผ. รับภาระแทนประชาชน ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และการผลิตเป็นการชั่วคราว จำนวน 1.02 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการลดภาระดังกล่าวของ กฟผ. ในเวลาที่เหมาะสมต่อไป  ซึ่งยังไม่นับรวมภาระค่าเอฟทีงวดก่อนๆนี้อีกจนำวนหนึ่งรวมเป็นภาระอุ้มค่าเอฟทีทั้งหมด 1.4 หมื่นล้านบาท

"ค่าเอฟทีงวดหน้ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ตามต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น   ส่วนจะปรับเพิ่มขึ้นเท่าไหร่คงต้องรอการกำหนดตัวเลขเฉลี่ยราคาเชื้อเพลิงย้อนหลังก่อน และภาครัฐคงไม่ลืมว่ากฟผ.ได้ช่วยชดเชยค่าเอฟทีไว้มีวงเงินรวม 1.4 หมื่นล้านบาทที่ต้องทยอยจ่ายคืนด้วย"นายสุทัศน์กล่าว