ทองคำเหมาะลงทุนยาวสามปี
โบรกเกอร์-ผู้ค้า-กองทุน ยืนยันตลาดล่วงหน้ารับความเสี่ยงได้ ผู้ซื้อทองช่วงนี้ต้องรอยาวสามปี
โบรกเกอร์-ผู้ค้า-กองทุน ยืนยันตลาดล่วงหน้ารับความเสี่ยงได้ ผู้ซื้อทองช่วงนี้ต้องรอยาวสามปี
สถานการณ์บังคับขายในสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์ส สำหรับนักลงทุนทองคำล่วงหน้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเทศไทย(TFEX)ที่บังคับขายวันแรกเรียกว่าTFEXมีวิธีจัดการที่ทำให้นักลงทุนไม่ตื่นตระหนก
ด้านสถานการณ์การแห่ซื้อทองย่านเยาวราช ผู้ค้าทองเตือนว่าอย่าซื้อเพราะราคาทองลง พึงระลึกว่าหากจะถือรอทองขึ้นต้องรอนานถึง 3 ปี
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนี้ตี้ ในฐานะ ประธานกรรมการชมรมผู้ประกอบการธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสัญญาซื้อขายทองคำที่ปรับตัวลดลงจนต้องประกาศหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา 30นาทีเป็นเพราะในช่วงที่ราคาทองคำดิ่งลงรุนแรง ซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย
ปิดทำการ ดังนั้นเมื่อตลาดเปิดทำการจึงเกิดการกระจุกตัวหรือการอั้นเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนในอุตสาหกรรมทราบกันดีอยู่แล้วและเตรียมตัวในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งต้องบอกว่าบริษัทสมาชิกทุกรายสามารถรับมือได้และสามารถดูแลลูกค้าได้
“จริงๆในวันที่ 17 เม.ย.มีการบังคับขายสัญญาของลูกค้าเกิดขึ้นน้อยมากเพราะเกิดขึ้นในเฉพาะกรณีที่ลูกค้ารายนั้นๆไม่สามารถติดต่อได้แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทสมาชิกตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.จึงมีการปิดสถานะและมีการนำหลักประกันมาเพิ่มได้ทันที่ตลาดเปิด”
สำหรับกรณีราคาทองคำดิ่งแรงไม่ใช่จะเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงนี้เพราะก่อนหน้านี้ลูกค้าที่ลงทุนในทองคำและสัญญาทองคำเคยเจอเหตุการณ์ราคาทองคำดิ่งแรงมาแล้ว และสามารถที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
“ เหตุการณ์ตลาดทองและตลาดล่วงหน้าป่วนครั้งนี้พูดลำบากว่าจะส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกลัวและถอยห่างจากตลาดจนส่งผลกระทบต่อการพัฒนาตลาดเพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งนักลงทุนที่ได้รับกำไรจากการปิดสถานะได้ทัน และสามารถคาดการณ์เหตุการต่างๆได้ดี ส่วนคนที่จะกลัวก็อาจเป็นไปได้ในส่วนของนักลงทุนที่เจอผลขาดทุนที่อาจทำให้เกิดการกลัวต่อการเข้ามาลงทุน และอาจจะมีต้องระมัดระวังในการเข้ามาลงทุนมากขึ้น”
สำหรับกรณีที่มีข่าวบอกว่า ผู้ที่จะขาดทุนมากสุดในภาวะแบบนี้คือร้านทองนั้น ชาญชัย กล่าวว่า ก็เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงที่ภายหลังร้านทองสามารถยกระดับมามาเป็น โบรกเกอร์ ในการซื้อขายทองคำได้เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์ จึงทำให้มีส่วนการซื้อขายในตลาดขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์จึงได้รับผลกระทบแต่ร้านทองทั้งหมดก็สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
มาตรการTFEXเอาอยู่
สัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตราสารอนุพันธุ์ บล.โกลเบล็ก(GBX) ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำ นักลงทุนที่เข้ามาในตลาด โกลด์ฟิวเจอร์ส นั้น ถ้าเข้ามาเพื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้นอายุ 2 สัปดาห์, 1 เดือน หรือ 2 เดือนก็อาจจะเหมาะสมเพราะใช้เงินน้อยกว่า แต่ถ้าจะใช้ โกลด์ฟิวเจอร์ส สำหรับการลงทุนในระยะยาวนั้นถือว่าคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาด TFEX ในช่วงเช้านั้น ทั้งในส่วนของผู้บริหารตลาด TFEX และโบรกเกอร์เองได้มีการหารือและเตรียมกันกันมาเป็นอย่างดีในช่วงที่ปิดทำการเทศกาลสงกรานต์ ทำให้เปิดตลาดมาเช้านี้แรงขายไม่มากเท่ากับที่นักลงทุนวิตกกังวล และราคาสัญญาซื้อขายทองคำก็ไม่ได้ร่วงลงไปมาก
"ตอนนี้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ เพราะลูกค้าที่โดนบังคับขาย ณ ราคาเปิดก็จะเลือกไปขายกระดาน put through มากกว่า ทำให้แรงขายช่วงตลาดเปิดไม่มากอย่างที่คนกลัว เพราะ TFEX โบรกเกอร์มีมาตรการรับซื้อสถานะ บังคับขาย ของลูกค้าหลายราย ทำให้ราคาไม่ลงไปต่ำกว่าทฤษฎีมากนัก"นายสัญญา ระบุ
แนะซื้อเก็บลงทุนระยะยาวได้
ธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดการกองทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ผู้บริหารกองทุนทองคำขนาดใหญ่ในไทย กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกกับข่าวแล้วรีบขายขาดทุนออกมา เพราะแรงขายหลักมาจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลังญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อน หนุนให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทอง รวมถึงข่าวประเทศไซปรัสจะขายทองออกมา
อย่างไรก็ตามมองว่าในที่สุดราคาทองจะเด้งขึ้นมาได้ เห็นได้จากช่วง 3 วันที่ผ่านมาก็เริ่มดีดขึ้นมาบ้างแล้ว
“นักลงทุนอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะการลงทุนในทองคำ คงไม่ได้ซื้อแล้วรวยเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นหุ้นไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้นักลงทุนวิ่งหาทอง จนราคาพุ่งแรง แต่ตอนนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หุ้นพุ่ง ทำให้ทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้สร้างกำไรหวือหวา และไม่แนะนำให้เข้ามาเก็งกำไรเหมือนที่ผ่านมา อาจมีไว้ติดพอร์ตการลงทุนประมาณ 5-10% ตามความเสี่ยงของแต่ละคนเท่านั้น”นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนทองคำ อาจใช้โอกาสนี้ในการทยอยซื้อสะสม เพื่อลงทุนระยะยาวได้ โดยบลจ.กสิกรไทย ประเมินราคาทองในปีนี้ไว้ที่ 1,300-1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์
ระวังแรงเทขาย
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า วายแอลจีมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางของราคาทองคำในขณะนี้ ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ 20,400 บาทต่อบาททองคำ แนวโน้มขาลงของราคาทองคำจะดำเนินต่อไป โดยประเมินกรอบแนวรับไว้ที่ 1,300 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 17,700 บาทต่อบาททองคำ หากหลุดลงไป แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 1,200 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 16,300 บาทต่อบาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้ นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูว่าราคาทองคำจะสามารถตั้งฐานในบริเวณ 1,300 เหรียญต่อออนซ์ได้หรือไม่ โดยสามารถเฉลี่ยซื้อได้หากมีการปรับตัวลงมาใกล้ 1,300 เหรียญต่อออนซ์หรือ 17,700 บาท และตัดขาดทุนหากหลุดลงไป เพื่อไปรอซื้อในบริเวณด้านล่างอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำกลับตัวขึ้นไปในบริเวณ 1,400-1,420 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 19,100-19,400 บาทต่อบาททองคำ เน้นให้นักลงทุนขายทองคำเพื่อทำกำไรออกมาก่อน เนื่องจากโซนดังกล่าวจะเป็นแนวต้านที่สำคัญ
นักลงทุนยาวรอ3 ปี
ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองในช่วงนี้ลดลงเนื่องจากธนาคารกลางไซปรัสประกาศขายทองคำออกมา 10 ตัน ส่งผลให้มีความกังวลว่า ธนาคารกลางในกลุ่มยุโรป โซน อาทิ สเปน โปรตุเกส และอิตาลี มีแนวโน้มเทขายทองตามออกมา ประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาขยายตัว 7.7 %ต่ำกว่าที่คาดว่า จะเติบโต 8 %ด้วย
ดังนั้นจึง ขอให้นักลงทุนระวังการลงทุน เพราะแนวโน้มราคาทองยังขาลง หลังหลุดแนวรับที่ 1,520 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อปี 2555 โดยในระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,400 เหรียญ โดยนักลงทุนที่ซื้อทองคำแท่งไว้แล้วให้ถือครองต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากหากมองในระยะ 3 ปี ทองอาจกลับขึ้นมาสูงได้อีกครั้ง จากการอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนให้ทยอยซื้อสะสม
ลงถึงสิ้นปี
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเอ็มทีเอสโกลด์แม่ทองสุก ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ราคาทองในประเทศปรับราคาลง คาดว่ามาจากความกังวลมาตรการนโยบายการเงินธนาคารกลางต่างประเทศ ทั้งนี้มองว่าราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลดลงถึงสิ้นปี
ซึ่งหากมีสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น อาจส่งผลให้ราคาทองคำ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,170 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ ประมาณบาทละ 16,700 บาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่จะซื้อทอง เพื่อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาทองปรับลดลงนั้น แนะนำว่าควรจะประเมินจากปัจจัยหรือ แนวโน้มต่าง ๆ มากกว่า ราคาที่ปรับลง หรือ ใช้วิธีการขายก่อน ซื้อทีหลัง