posttoday

ทองคำเหมาะลงทุนยาวสามปี

18 เมษายน 2556

โบรกเกอร์-ผู้ค้า-กองทุน ยืนยันตลาดล่วงหน้ารับความเสี่ยงได้ ผู้ซื้อทองช่วงนี้ต้องรอยาวสามปี

โบรกเกอร์-ผู้ค้า-กองทุน ยืนยันตลาดล่วงหน้ารับความเสี่ยงได้ ผู้ซื้อทองช่วงนี้ต้องรอยาวสามปี

สถานการณ์บังคับขายในสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์ส สำหรับนักลงทุนทองคำล่วงหน้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเทศไทย(TFEX)ที่บังคับขายวันแรกเรียกว่าTFEXมีวิธีจัดการที่ทำให้นักลงทุนไม่ตื่นตระหนก

ด้านสถานการณ์การแห่ซื้อทองย่านเยาวราช ผู้ค้าทองเตือนว่าอย่าซื้อเพราะราคาทองลง พึงระลึกว่าหากจะถือรอทองขึ้นต้องรอนานถึง 3 ปี

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ  บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนี้ตี้ ในฐานะ ประธานกรรมการชมรมผู้ประกอบการธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสัญญาซื้อขายทองคำที่ปรับตัวลดลงจนต้องประกาศหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวเป็นเวลา  30นาทีเป็นเพราะในช่วงที่ราคาทองคำดิ่งลงรุนแรง ซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย
ปิดทำการ ดังนั้นเมื่อตลาดเปิดทำการจึงเกิดการกระจุกตัวหรือการอั้นเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนในอุตสาหกรรมทราบกันดีอยู่แล้วและเตรียมตัวในการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งต้องบอกว่าบริษัทสมาชิกทุกรายสามารถรับมือได้และสามารถดูแลลูกค้าได้ 

“จริงๆในวันที่ 17 เม.ย.มีการบังคับขายสัญญาของลูกค้าเกิดขึ้นน้อยมากเพราะเกิดขึ้นในเฉพาะกรณีที่ลูกค้ารายนั้นๆไม่สามารถติดต่อได้แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทสมาชิกตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.จึงมีการปิดสถานะและมีการนำหลักประกันมาเพิ่มได้ทันที่ตลาดเปิด”

สำหรับกรณีราคาทองคำดิ่งแรงไม่ใช่จะเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงนี้เพราะก่อนหน้านี้ลูกค้าที่ลงทุนในทองคำและสัญญาทองคำเคยเจอเหตุการณ์ราคาทองคำดิ่งแรงมาแล้ว และสามารถที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

“ เหตุการณ์ตลาดทองและตลาดล่วงหน้าป่วนครั้งนี้พูดลำบากว่าจะส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกลัวและถอยห่างจากตลาดจนส่งผลกระทบต่อการพัฒนาตลาดเพราะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งนักลงทุนที่ได้รับกำไรจากการปิดสถานะได้ทัน และสามารถคาดการณ์เหตุการต่างๆได้ดี  ส่วนคนที่จะกลัวก็อาจเป็นไปได้ในส่วนของนักลงทุนที่เจอผลขาดทุนที่อาจทำให้เกิดการกลัวต่อการเข้ามาลงทุน และอาจจะมีต้องระมัดระวังในการเข้ามาลงทุนมากขึ้น”

สำหรับกรณีที่มีข่าวบอกว่า ผู้ที่จะขาดทุนมากสุดในภาวะแบบนี้คือร้านทองนั้น ชาญชัย กล่าวว่า ก็เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงที่ภายหลังร้านทองสามารถยกระดับมามาเป็น โบรกเกอร์ ในการซื้อขายทองคำได้เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์  จึงทำให้มีส่วนการซื้อขายในตลาดขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์จึงได้รับผลกระทบแต่ร้านทองทั้งหมดก็สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

มาตรการTFEXเอาอยู่

สัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตราสารอนุพันธุ์ บล.โกลเบล็ก(GBX) ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำ นักลงทุนที่เข้ามาในตลาด โกลด์ฟิวเจอร์ส นั้น ถ้าเข้ามาเพื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้นอายุ 2 สัปดาห์, 1 เดือน หรือ 2 เดือนก็อาจจะเหมาะสมเพราะใช้เงินน้อยกว่า แต่ถ้าจะใช้ โกลด์ฟิวเจอร์ส สำหรับการลงทุนในระยะยาวนั้นถือว่าคงไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะสม

อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาด TFEX ในช่วงเช้านั้น ทั้งในส่วนของผู้บริหารตลาด TFEX และโบรกเกอร์เองได้มีการหารือและเตรียมกันกันมาเป็นอย่างดีในช่วงที่ปิดทำการเทศกาลสงกรานต์ ทำให้เปิดตลาดมาเช้านี้แรงขายไม่มากเท่ากับที่นักลงทุนวิตกกังวล และราคาสัญญาซื้อขายทองคำก็ไม่ได้ร่วงลงไปมาก

"ตอนนี้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ เพราะลูกค้าที่โดนบังคับขาย ณ ราคาเปิดก็จะเลือกไปขายกระดาน put through มากกว่า ทำให้แรงขายช่วงตลาดเปิดไม่มากอย่างที่คนกลัว เพราะ TFEX โบรกเกอร์มีมาตรการรับซื้อสถานะ บังคับขาย ของลูกค้าหลายราย ทำให้ราคาไม่ลงไปต่ำกว่าทฤษฎีมากนัก"นายสัญญา ระบุ

แนะซื้อเก็บลงทุนระยะยาวได้

ธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดการกองทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ผู้บริหารกองทุนทองคำขนาดใหญ่ในไทย กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนกกับข่าวแล้วรีบขายขาดทุนออกมา เพราะแรงขายหลักมาจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์หลังญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อน หนุนให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทอง รวมถึงข่าวประเทศไซปรัสจะขายทองออกมา

อย่างไรก็ตามมองว่าในที่สุดราคาทองจะเด้งขึ้นมาได้ เห็นได้จากช่วง 3 วันที่ผ่านมาก็เริ่มดีดขึ้นมาบ้างแล้ว

“นักลงทุนอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะการลงทุนในทองคำ คงไม่ได้ซื้อแล้วรวยเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นหุ้นไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้นักลงทุนวิ่งหาทอง จนราคาพุ่งแรง แต่ตอนนี้เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว หุ้นพุ่ง ทำให้ทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้สร้างกำไรหวือหวา และไม่แนะนำให้เข้ามาเก็งกำไรเหมือนที่ผ่านมา อาจมีไว้ติดพอร์ตการลงทุนประมาณ 5-10% ตามความเสี่ยงของแต่ละคนเท่านั้น”นายธนวัฒน์ กล่าว

สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนทองคำ อาจใช้โอกาสนี้ในการทยอยซื้อสะสม เพื่อลงทุนระยะยาวได้ โดยบลจ.กสิกรไทย ประเมินราคาทองในปีนี้ไว้ที่ 1,300-1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

ระวังแรงเทขาย

นางพวรรณ์  นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า วายแอลจีมีมุมมองเชิงลบต่อทิศทางของราคาทองคำในขณะนี้ ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,500 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ 20,400 บาทต่อบาททองคำ  แนวโน้มขาลงของราคาทองคำจะดำเนินต่อไป โดยประเมินกรอบแนวรับไว้ที่ 1,300 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 17,700 บาทต่อบาททองคำ  หากหลุดลงไป แนวรับสำคัญจะอยู่ที่ 1,200 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 16,300 บาทต่อบาททองคำ

กลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้ นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูว่าราคาทองคำจะสามารถตั้งฐานในบริเวณ 1,300 เหรียญต่อออนซ์ได้หรือไม่ โดยสามารถเฉลี่ยซื้อได้หากมีการปรับตัวลงมาใกล้ 1,300 เหรียญต่อออนซ์หรือ 17,700 บาท  และตัดขาดทุนหากหลุดลงไป เพื่อไปรอซื้อในบริเวณด้านล่างอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำกลับตัวขึ้นไปในบริเวณ 1,400-1,420 เหรียญต่อออนซ์ หรือ 19,100-19,400 บาทต่อบาททองคำ เน้นให้นักลงทุนขายทองคำเพื่อทำกำไรออกมาก่อน เนื่องจากโซนดังกล่าวจะเป็นแนวต้านที่สำคัญ

นักลงทุนยาวรอ3 ปี

ธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองในช่วงนี้ลดลงเนื่องจากธนาคารกลางไซปรัสประกาศขายทองคำออกมา 10 ตัน ส่งผลให้มีความกังวลว่า ธนาคารกลางในกลุ่มยุโรป โซน อาทิ สเปน โปรตุเกส และอิตาลี มีแนวโน้มเทขายทองตามออกมา ประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาขยายตัว 7.7 %ต่ำกว่าที่คาดว่า จะเติบโต 8 %ด้วย

ดังนั้นจึง ขอให้นักลงทุนระวังการลงทุน เพราะแนวโน้มราคาทองยังขาลง หลังหลุดแนวรับที่ 1,520 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อปี 2555 โดยในระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้นได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,400 เหรียญ โดยนักลงทุนที่ซื้อทองคำแท่งไว้แล้วให้ถือครองต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากหากมองในระยะ 3 ปี ทองอาจกลับขึ้นมาสูงได้อีกครั้ง จากการอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนให้ทยอยซื้อสะสม

ลงถึงสิ้นปี

นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเอ็มทีเอสโกลด์แม่ทองสุก ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่ราคาทองในประเทศปรับราคาลง คาดว่ามาจากความกังวลมาตรการนโยบายการเงินธนาคารกลางต่างประเทศ ทั้งนี้มองว่าราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลดลงถึงสิ้นปี

ซึ่งหากมีสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น อาจส่งผลให้ราคาทองคำ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,170 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ ประมาณบาทละ 16,700 บาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่จะซื้อทอง เพื่อเก็งกำไรในช่วงที่ราคาทองปรับลดลงนั้น แนะนำว่าควรจะประเมินจากปัจจัยหรือ แนวโน้มต่าง ๆ มากกว่า ราคาที่ปรับลง หรือ ใช้วิธีการขายก่อน ซื้อทีหลัง