ราคาพริกไทยแนวโน้มสดใสไม่หวั่นค้าเสรี
โพสต์ทูเดย์
— ตลาดพริกไทยไร้ผลกระทบเปิดเสรีอาเซียน คุณภาพเหนือกว่าคู่แข่ง แนวโน้มราคายังพุ่งนายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ตลาดพริกไทย หลังการเปิดเสรีสินค้าพริกไทยภาษี 0% ตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) พบว่า มีการนำเข้าพริกไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา และลาว แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยเนื่องจากมีข้อได้เปรียบในเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติทำให้พริกไทยจันทบุรี|ยังเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการในประเทศ
นอกจากนี้ ผลผลิตพริกไทยมีปริมาณน้อย จึงคาดว่าอนาคตยังคงสดใส ราคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้ประกอบการยังคงมีต่อเนื่อง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทำให้ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้น
“ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการรักษาระดับปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ การช่วยกันฟื้นฟูสภาพดินและสนับสนุนการรวมกลุ่มเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกให้เป็นแบบอินทรีย์มากขึ้น ซึ่งในเดือนมี.ค.ของจังหวัดจันทบุรีซึ่งมีพื้นที่ปลูกและผลผลิต 98%ของพื้นที่ปลูก และผลผลิตพริกไทยทั้งประเทศ สภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทำให้ผลผลิตในปีนี้ออกล่าช้า ส่วนที่เหลือจะเก็บเกี่ยวได้หมดภายในเดือนเม .ย.โดยคาดว่าจะมีผลผลิต 6,956 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5% “เลขาสศก.กล่าว
สำหรับผลผลิตปีนี้จะลดลง จากสภาพดินเสื่อมโทรม เกษตรกรมีทางเลือกปลูกพืชหลายชนิดที่ผลตอบแทนสูงกว่า จึงได้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ยางพารา และแก้วมังกร ซึ่งเกษตรกรบางรายจะขายในรูปพริกไทยอ่อน เนื่องจากสามารถขายผลผลิตโดยไม่สูญเสียน้ำหนักและไม่มีต้นทุนในการทำเป็นพริกไทยเมล็ดแห้งโดยขายได้ในราคาเฉลี่ย กิโลกรัมละ 40 บาททำให้ผลผลิตพริกไทยเมล็ดแห้งคาดว่าจะเหลือประมาณ 4,000 ตัน ซึ่งราคาพริกไทยดำเกรดคละเดือน มี.ค. กิโลกรัมละ 80110 บาท และพริกไทยขาวกิโลกรัมละ 170180 บาท