posttoday

ทองคำไปผูกกับเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา

30 กันยายน 2556

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการหารือเรื่องงบประมาณสหรัฐ (สิ้นสุดกำหนดการวันที่ 1 ต.ค.) และประเด็นเพดานหนี้ (นายลิว เลขาธิการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า ระดับหนี้จะชนเพดานภายในวันที่ 17 ต.ค.) นอกจากนี้ตลาดยังคงมีความคาดหวังว่าเฟดจะยังคงคิวอี

โดยล่าสุด วุฒิสภาที่มีเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ มีเสียงสนับสนุนเพียงพอ และได้ผ่านร่างงบประมาณของพรรครีพับลิกันที่ไม่มีโครงการสุขภาพของนายโอบามา (Obamacare) เรียบร้อยแล้ว แต่การหารือยังไม่จบ โดยร่างนี้จะยื่นต่อไปที่สภาผู้แทนราษฎรที่มีรีพับลิกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้มีการประชุมในวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาร่างงบประมาณ และจะลงนามร่างนี้ภายในวันจันทร์นี้ เพื่อป้องกันรัฐบาลปิดตัวในวันอังคาร

ส่วนการแถลงของสมาชิกเฟดเมื่อคืนวันศุกร์ นายอีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวว่า แม้ว่าจะเป็น “โอกาสที่เหมาะสม” ที่เฟดอาจจะเริ่มชะลอคิวอีในเดือน ต.ค. หรือ ธ.ค. แต่ก็อาจจะมีการเลื่อนไปจนถึงปี 2014 เลยก็ได้ และอาจไม่น่าแปลกใจ หากจะไม่มีการชะลอคิวอีในเดือน ต.ค. นอกจากนี้ นายดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ยังกล่าวว่า ระยะเวลาระหว่างการสิ้นสุดคิวอี และการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก อาจจะห่างกันเป็นเวลาปีๆ ซึ่งเป็นคำพูดเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ และอาจจะไม่หยุดคิวอีจนกว่าจะถึงปลายปีหน้า และอย่างน้อยจะใช้เวลาเป็น “หน่วยปี” ในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. 2016 ซึ่งจะทำให้เป็นเวลาถึง “ทศวรรษ (10 ปี)” ระหว่างการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง (ครั้งล่าสุดเป็น มิ.ย. ปี 2006)

วิเคราะห์สภาพตลาดทองคำในสัปดาห์นี้

ในสัปดาห์นี้ ความต้องการทองคำในตลาดเอเชียจะลดลง เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวของจีนในช่วงวันที่ 1-7 ต.ค. เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดแห่งชาติ ทำให้|อัตราค่าพรีเมียมทองคำในตลาดจีนและเอเชียเริ่มปรับตัวลดลงมาบ้าง โดยภาพรวมตลาดยังคงรอความชัดเจนของรัฐสภาสหรัฐอเมริกาในคืนวันจันทร์ ในขณะที่ผลสำรวจของ Kitco จากนักวิเคราะห์ 19 คน พบว่า 11 คน คิดว่าราคาสัปดาห์หน้าจะปรับตัวขึ้น ในขณะที่ 4 คน มองว่าจะปรับตัวลง และ 4 คน คาดว่าราคาจะอยู่ในกรอบเดิม ในเชิงปัจจัยทางเทคนิคจะเห็นได้ว่าราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้ว|แกว่งตัวในกรอบ 1,310-1,340 เหรียญสหรัฐ ยัง|เคลื่อนตัวอยู่ในทิศทาง Sideways และยังไม่มีความแน่ชัดของแนวโน้ม โดยที่แนวรับด้านล่างของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญสหรัฐ และแนวต้านด้านบนจะอยู่ที่ระดับ 1,345 เหรียญสหรัฐ ลักษณะกราฟเริ่มเคลื่อนตัวในลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่า และบีบตัวแคบลงเรื่อยๆ

MTS Gold ยังคงแนะนำนักลงทุนให้ปรับพอร์ตให้สมดุล ไม่ถือข้างใดข้างหนึ่งมากไป และควรเตรียมความพร้อมในสภาพที่อาจผันผวนรุนแรงได้ โดยเฉพาะวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีตัวเลข Non-Farm Payrolls เดิม 1.69 แสนตำแหน่ง คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 1.79 แสนตำแหน่ง ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ก็จะส่งผลกดดันราคาทองคำอย่างมากในคืนวันศุกร์

การลงทุนในทองคำ นักลงทุนควรที่จะต้องมีวินัยในการลงทุนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารความเสี่ยงในการลงทุน โดยที่การเปิดบัญชีใน Gold Futures เอง นักลงทุนก็จะสามารถซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินเปิดบัญชี หรือเงิน Margin ถึง 14 เท่า (โดยประมาณ) แต่อย่างไรก็ดี อยากจะย้ำเตือนท่านนักลงทุนว่า การที่จะใช้ Leverage มากๆ หรือเรียกตามประสาชาวบ้านว่า “ซื้อขายเต็มแม็ก” ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนมักจะเข้าใจผิดว่าเมื่อให้โอกาสในการซื้อขายแบบเต็มแม็กได้ ก็จะใช้สิทธิในการลงทุนแบบเต็มแม็กเสมอ ในเชิงทฤษฎีจริงๆ แล้ว การลงทุนแบบเต็มแม็ก นักลงทุนที่ชาญฉลาดมักจะไม่ทำกัน เรียกว่าจะต้องมีการเผื่อเหลือเผื่อขาดในสภาวะที่ผันผวนตลอดเวลาเช่นนี้ MTS Gold จึงย้ำเน้นว่าการเริ่มลงทุนควรจะเริ่มในอัตรา 1:1 และค่อยๆ เพิ่มการทำ Leverage ไปอย่างช้าๆ จุดสูงสุดของการทำ Leverage ไม่ควรเกิน 5 เท่า ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นจะได้เป็นการบริหารความเสี่ยงที่จะต้องเหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละคน MTS Gold นิยมให้นักลงทุนซื้อขายหรือใช้ Leverage เพิ่มขึ้นเมื่อท่านเป็นฝ่ายได้เปรียบ หมายความว่าเมื่อท่านมีกำไรแล้วเท่านั้น ในขณะที่นักลงทุนที่ประสบภาวะขาดทุนหรือล้มเหลว มักจะทำกลับกันคือ ใช้การซื้อถัวเฉลี่ยจนเต็มแม็ก ซึ่งการซื้อถัวเฉลี่ยในภาวะที่ท่านกำลังขาดทุนนับเป็นสิ่งที่ผิด และไม่ควรทำอย่างยิ่ง จะทำให้ท่านมีความเสี่ยงอย่างสูงขึ้นมาก และมีโอกาสประสบภาวะขาดทุนจนหมดหน้าตักได้

MTS Gold Futures โบรกเกอร์ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย ย้ำเน้นถึงการมีวินัยในการลงทุนที่ดีอยู่เสมอ เพื่อการลงทุนที่ถูกต้องและยั่งยืน มากกว่าที่จะเก็งกำไรครั้งละมากๆ