posttoday

AIGกำไรไตรมาส2โต2,700ล้านเหรียญฯ

08 ตุลาคม 2556

เอไอจีเผยผลประกอบการไตรมาส 2 มีกำไร 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปลื้มนิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ ได้เรทติ้ง “ A+”

เอไอจีเผยผลประกอบการไตรมาส 2 มีกำไร 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปลื้มนิวแฮมพ์เชอร์ อินชัวรันส์ ได้เรทติ้ง “ A+”

บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2556 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 7 ไตรมาส โดยกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิตมีกำไรอยู่ที่ 2,300 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2555

ทั้งนี้ ผลกำไรจากการดำเนินงานเฉพาะกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยของเอไอจีทั่วโลกเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2556 นี้ อยู่ที่ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 936 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เบี้ยรับสุทธิของธุรกิจประกันภัยพาณิชยกรรมเพิ่มขึ้นถึง 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2555 ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจและกลยุทธ์ด้านการกำหนดราคา ส่วนเบี้ยรับสุทธิของธุรกิจประกันภัยลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นถึง 4.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีแล้ว เป็นผลจากการเน้นสร้างความเติบโตในกลุ่มธุรกิจที่สร้างมูลค่า รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายด้านการขายตรงถึงลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

นายโรเบิร์ต เบนมอเช่ ประธานบริษัทและหัวหน้าคณะผู้บริหาร กล่าวว่า  พอใจอย่างมากกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้และจากการใส่ใจอย่างมากกับปัจจัยพื้นฐานที่เอไอจีมีอยู่ ได้สร้างให้เราเป็น AIG ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ที่แข็งแกร่ง เรียบง่าย พร้อมด้วยวิสัยทัศน์และความทุ่มเทมุ่งมั่นสู่เป้าหมาย ผลกำไรในไตรมาสนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จจากการมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ในการดำเนินงานธุรกิจประกันภัยรวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเงินกองทุน

“ความทุ่มเทที่จะดำเนินงานทั่วโลกอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันของเอไอจี ได้ส่งผลลัพธ์ในทางบวกที่ดีเยี่ยมและเรายังคงเชื่อว่าผลลัพธ์ของความร่วมมือทั่วทั้งองค์กรนี้จะช่วยสร้างและนำไปสู่ผลประกอบ การ ที่แข็งแกร่งดังเช่นที่ได้เห็นไตรมาสนี้ต่อไป” นายเบนมอเช่ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของกลุ่มบริษัท เอไอจี ประเทศไทยในไตรมาส 2 ของปี 2556 มีรายรับสุทธิ อยู่ที่ 1,431 ล้านบาท โดยบริษัท นิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย มีกำไรสุทธิหลังภาษีที่ 73 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) 490% และบริษัท เอไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย)  มีกำไรสุทธิหลังภาษีที่ 60 ล้านบาท มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR Ratio) 863%

นอกจากนี้ บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย ยังได้ระบุถึงผลการปรับเครดิตเรทติ้งจากสถาบัน S&P สำหรับบริษัท นิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์  ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเอไอจี ว่า ได้ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่อยู่ระดับ A เป็นระดับ A+ ซึ่งการจัดอันดับจากสถาบันที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลกเช่นนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการช่วยชี้วัดและยืนยันศักยภาพ ความแข็งแกร่งของบริษัทได้เป็นอย่างดี