ตลาดหุ้นกัมพูชา โอกาสเอสเอ็มอีระดมทุน

โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ

เมื่อเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว นอกจากการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมและการบริการแล้ว การลงทุนในตลาดทุนก็เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ ทำให้ประเทศที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนาได้จัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) จัดเป็นตลาดหุ้นน้องใหม่ของอาเซียน เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ก.ค. 2554 โดยรัฐบาลกัมพูชาถือหุ้น 55% และบริษัทหลักทรัพย์เกาหลี 45% เริ่มเปิดให้ซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2555

ฮง ซก อาว กรรมการผู้จัดการ CSX กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาจัดว่าเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีขนาดเล็กและอยู่ระหว่างการพัฒนา มีมูลค่าตลาดประมาณ 1% ต่อจีดีพีประเทศ และมีมูลค่าการซื้อขายวันละประมาณ 1,000 กว่าเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าไม่มากนัก

ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท Phnom Penh Water Supply Authority (PPWSA) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำประปา ที่มีรัฐบาลกัมพูชาเป็นเจ้าของ เข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2555 และบริษัท Grand Twin International (GTI) ซึ่งเป็นบริษัทของนักลงทุนไต้หวัน ทำธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จดทะเบียนในตลาดเมื่อปีที่แล้ว

ที่ผ่านมา CSX พยายามเชิญชวนให้นักลงทุนนำบริษัทมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมและบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากบริษัทกว่า 97% ของกัมพูชาเป็นเอสเอ็มอี ซึ่งบริษัทในกลุ่มนี้มีศักยภาพสูง และมีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่ เพราะเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ มีการศึกษาสูง และเข้าใจการลงทุนในตลาดทุน จึงมีศักยภาพที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาด หลักทรัพย์มากกว่า ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่เป็นของคนที่รวยอยู่แล้ว การเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดจึงอาจไม่ใช่คำตอบของบริษัทระดับนี้

เพื่อจับตลาดเป้าหมายดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชามีแผนจะจัดตั้งคณะกรรมการชุดเล็ก ทำหน้าที่พิจารณาบริษัทเอสเอ็มอีที่ต้องการจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ ซึ่งจะมีขั้นตอนและข้อกำหนดต่างๆ ในการพิจารณาที่แตกต่างจากบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อจะส่งเสริมให้บริษัทเอสเอ็มอีเข้ามาจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าวภายในปลายปีนี้

ขณะเดียวกัน ยังร่วมกับภาครัฐส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนที่ต้องการนำบริษัทมาจดทะเบียนในตลาด และมีการให้สิทธิประโยชน์ด้านการหักลดหย่อนภาษีจากกำไร และลดการหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผล เป็นต้น

ด้านเป้าหมายจำนวนบริษัทจดทะเบียนในอนาคต คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาบริษัทประมาณ 10 ราย มีทั้งรัฐวิสาหกิจและเอกชน คาดว่าในปี 2558 จะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนเพิ่ม 3 บริษัท ปี 2559 จำนวน 4 บริษัท และปี 2560 จำนวน 4 บริษัท ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิต อสังหาริมทรัพย์และการบริการ ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก และธุรกิจประกันและการเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ CSX มีแผนจะเปิดตัวตลาดพันธบัตรในช่วงปีหน้าด้วย

ในส่วนของการซื้อขายหุ้นนั้น ยอมรับช่วงแรกๆ มีนักลงทุนให้ความสนใจมาก แต่จำนวนก็ปรับลดลงมา ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติมากกว่านักลงทุนภายในประเทศ โดยมีนักลงทุนชาวจีนเข้ามาซื้อขายเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ไต้หวัน และมาเลเซีย เช่นเดียวกับบริษัทหลักทรัพย์ 11 บริษัทที่มีอยู่ตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทต่างชาติเช่นกัน

“นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นนักลงทุนต่างชาติ เป็นชาวจีนมากกว่า 52% ขณะที่นักลงทุนท้องถิ่นจะถอนตัวออกจากตลาดเพราะความอ่อนไหวด้านราคาหุ้น แต่นักลงทุนต่างชาติจะอยู่ในตลาดเหนียวแน่นกว่า”

การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เต็มรูปแบบ น่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาก็พยายามเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับหลายประเทศ เพื่อที่จะพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ให้เติบโตมากขึ้น