posttoday

ตลท.ลุ้นปี60 มาร์เก็ตแคปฟื้นกลับไปที่ 120% ของจีดีพี

16 กุมภาพันธ์ 2559

ตลท.ทำใจปีนี้ตลาดหุ้นเหงา ลุ้นปี 2560 มาร์เก็ตแคปกลับไปที่ 120% ของจีดีพี รอโลกฟื้น ไทยเลือกตั้ง

ตลท.ทำใจปีนี้ตลาดหุ้นเหงา ลุ้นปี 2560 มาร์เก็ตแคปกลับไปที่ 120% ของจีดีพี รอโลกฟื้น ไทยเลือกตั้ง

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ตลท.มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคปลดลงมาอยู่ที่ 94% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) มาอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่วันละ 4.4 หมื่นล้านบาท และสัดส่วนผู้ลงทุนรายบุคคลของไทยก็ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 8 ปี มาอยู่ที่ 52% จากไตรมาสแรกปีก่อนอยู่ที่ 64.18% เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกจากผลกระทบราคาน้ำมันที่ลดลงต่ำสุดในรอบหลายปี ทำให้นักลงทุนขายหุ้นเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2560 มาร์เก็ตแคปจะกลับมาอยู่ที่ 120% ของจีดีพี มาอยู่ที่ 14 ล้านล้านบาท มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อไตรมาสแรกของปี 2558 เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งจากสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่จะเริ่มเห็นผลจากนี้ หลังนโยบายภาครัฐเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปลายปีที่มา ส่วนเป้าหมายระยะยาวยังคงเป้าหมายว่าภายในปี 2563 มาร์เก็ตแคปจะอยู่ 150% ของจีดีพี มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 1 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี หากปีหน้าไทยมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง แสดงถึงความมีเสถียรภาพทางการเมือง จะสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนหุ้นไทยมากขึ้น ขณะเดียวกัน ตลท.ก็ยังมีนโยบายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) กับผู้ลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดทุนปีนี้ยังคงมีความผันผวนซึ่งเกิดจากปัจจัยจากต่างประเทศมากกว่าในประเทศ ทั้งกรณีราคาน้ำมันที่ลดลง และความเสียหายของธนาคารดอยช์แบงก์ ส่งผลให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจยุโรปช้ากว่าที่คาด แต่ก็เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถบริหารจัดการได้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐคงปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เร็ว และเงินสกุลเหรียญสหรัฐจะไม่แข็งค่าเร็วจนเกินไป ซึ่งมีผลให้ค่าเงินบาทคงไม่อ่อนค่ามากนัก 

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ได้ทยอยออกมา ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มพลังงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนในระยะยาวเป็นหลัก เพราะพื้นฐาน บจ.ไทยยังแข็งแกร่ง ยังมีการควบรวมกิจการและซื้อกิจการกันอยู่ สะท้อนให้เห็นว่ามีสภาพคล่องและฐานะทางการเงินที่ยังแข็งแกร่งอยู่