"อากาศ"ภัยเงียบคร่าชีวิตมนุษย์
องค์การอนามัยโลกเผย 1 ใน 9 ของการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรทั่วโลกเกิดจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ
องค์การอนามัยโลกเผย 1 ใน 9 ของการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรทั่วโลกเกิดจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ได้ประเมินว่า 1 ใน 9 ของการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรทั่วโลกเกิดจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ
ก๊าซพิษมากมายได้ถูกปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศเนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ (fossil fuel) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศก็สัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจ ภาวะสมองขาดเลือด โรคมะเร็ง และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจชนิดต่างๆ
ทำให้มีการรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก ซึ่ง บูพา องค์กรด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการด้านสุขภาพแก่สมาชิก 29 ล้านราย ใน 190 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในไทย ที่มีสมาชิก 4 แสนราย และสมาชิกองค์กรกว่า 2,000 แห่ง เป็นหนึ่งในบริษัทประกันสุขภาพที่เข้าร่วมลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์
บูพา ได้ทุ่มงบลงทุนรวม 50 ล้านปอนด์ ในการสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนไดออกไซต์และโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกรวมกว่า 950 โครงการ และสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนสูงถึง 23% ในปี 2558 สามารถวัดค่าได้เพียง 152 KtCO2e เท่านั้น ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2553 ว่าจะลดลงให้ได้ 20% หลังจากเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2552 โดยปี 2553 วัดค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 198 KtCO2e
ทั้งนี้ บูพา ได้ติดตั้งเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารสำนักงานของบูพารวมกว่า 233 จุด ในหลายเมืองทั่วโลก ตั้งแต่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ถึงเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษถึงกรุงเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจัดทำโครงการประหยัดพลังงานอื่นๆ
ทั้งนี้ ในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บูพาจัดทำโครงการประหยัดพลังงานรวม 400 โครงการ ซึ่งบูพากลายเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ดำเนินโครงการแผงหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์
ขณะที่ ในประเทศอังกฤษ ได้ดำเนินโครงการเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าและความร้อนร่วม (Combined Heat and Power : CHP) จำนวน 89 โครงการ และโครงการที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 101 โครงการ
ส่วนสำนักงานใหญ่ที่กรุงลอนดอนใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นสัดส่วน 100% และที่อาคารสำนักงานยังติดตั้งแผงโซลาร์ไว้บนหลังคาของสำนักงานอีกด้วย
ในประเทศสเปน ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นสัดส่วนถึง 99% ในประเทศอินเดีย ได้ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่อาคารสำนักงานของ Max Bupa ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบูพาในกรุงเดลี เป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก
ทั้งนี้ ได้ผ่านการรับรองโดย Carbon Trust ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ หน่วยงานนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลเรื่องสภาวะโลกร้อนและกระตุ้นเรื่องการลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งการรับรองโดยหน่วยงานข้างต้น ยังสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ของข้อกำหนดตามมาตรฐานของ Carbon Trust Standard และหลักเกณฑ์ใหม่ตามระเบียบของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Protocol (GHG)) ด้วย
บริษัทบูพาเป็นบริษัทที่ให้บริการการดูแลสุขภาพบริษัทแรกที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Carbon Trust Standard เมื่อปี 2556 ที่รับรองการดำเนินงานในด้านการกำหนดมาตรการ การจัดการ และการลดการการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ต่อมา ในปี 2557 บูพาได้ก่อตั้งกองทุน Energy Saver เพื่อให้เงินสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนไดออกไซต์ หรือโลว์คาร์บอน (low-carbon) และโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกรวมกว่า 950 โครงการ
ปัจจุบัน บูพาเป็นบริษัทประกันสุขภาพชั้นนำระดับโลกที่มีค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในสัดส่วน 45% แทนที่จะใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ อย่างเช่น ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติ
สจ๊วต เฟลทเชอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบูพา กล่าวว่า การลด “คาร์บอน ฟุตพริ้นท์”(Carbon Footprint) เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบริษัท ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ องค์การอนามัยโลกประเมินว่ามลภาวะเป็นพิษทางอากาศเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร การช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือแนวทางที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของบริษัทที่ต้องการให้ทุกคน “มีชีวิตที่ยืนยาว มีสุขภาพที่ดี และมีความสุขยิ่งขึ้น ซึ่งการประสบความสำเร็จเหนือเป้าหมายที่กำหนดไว้ในการช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คือความสำเร็จ และเป็นความภูมิใจในวิถีที่คนบูพาร่วมกันใช้เป็นแนวทางการทำงานที่มาถูกทาง
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานเรื่องนี้ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ บริษัทยังคงสนับสนุนการทำโครงการลดคาร์บอนและโครงการพลังงานทดแทนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องผ่านกองทุนที่เรียกว่า Environment Saver Fund หรือ ESF และจะขยายการให้การสนับสนุนให้ครอบคลุมโครงการที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาน้ำและการกำจัดขยะอีกด้วย
นายดาร์เรน เมสเซม กรรมการผู้จัดการของมาตรฐาน Carbon Trust กล่าวว่า บริษัททำงานร่วมกับบูพามาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อรับรองความสำเร็จในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยในปัจจุบัน บูพาเป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพียงบริษัทเดียวที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Carbon Trust Standard สะท้อนถึงความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปทั่วทั้งองค์กร
ทั้งนี้ การดำเนินงานเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จ เพราะองค์กรต้องมีความเป็นผู้นำและยังต้องปลูกฝังวัฒนธรรมของการเติบโตอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น ซึ่งความทุ่มเทเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บูพาประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ได้รับการรับรองมากกว่า 35% และ ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานดังกล่าวเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2563
นอกจาก บูพาจะประสบความสำเร็จในการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น ยังสามารถสร้างความสำเร็จในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกันด้วย โดยจำนวนลูกค้าของบูพาเพิ่มขึ้น 3 เท่า มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 40% และมีพนักงานบูพาทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 หมื่นคน
สำหรับ บูพา เป็นองค์กรที่ให้บริการด้านสุขภาพ ที่ไม่มีผู้ถือหุ้น ผลกำไรที่ได้จากการประกอบธุรกิจทั้งหมด จะถูกนำไปลงทุนเพื่อพัฒนาการให้บริการด้านสุขภาพแก่สมาชิก โดยในไทย บูพา ได้ให้บริการมาร่วม 30 ปีแล้ว