posttoday

ดิเอราวัณเข้มยกระดับความปลอดภัย

12 สิงหาคม 2559

ดิเอราวัณเข้มยกระดับความปลอดภัย ยันลูกค้ายังไม่ยกเลิกจอง เชื่อประเทศไทยฟื้นตัวเร็ว

ดิเอราวัณเข้มยกระดับความปลอดภัย ยันลูกค้ายังไม่ยกเลิกจอง เชื่อประเทศไทยฟื้นตัวเร็ว

นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มโรงแรมในเครือดิ เอราวัณที่มี 40 แห่งทั่วประเทศ รวมกว่า 6,000 ห้องพักได้สั่งยกระดับเรื่องการดูแลความปลอดภัยทั้งลูกค้าที่เข้าพักและพนักงาน พร้อมกับเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ และถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ โดยเวลานี้ต้องรอทางเจ้าหน้าที่รัฐสรุปสาเหตุที่แท้จริงก่อน จึงจะประเมินสถานการณ์นับจากนี้ได้ แต่เบื้องต้นผู้จองเข้าพักในเครือดิ เอราวัณยังไม่มีรายงานการยกเลิกจอง

นอกจากนี้ ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเคยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ลักษณะนี้มาหลายครั้ง และสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้วที่ก็มีเหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้นในเดือน ส.ค. และก็ฟื้นตัวได้ภายใน 4 สัปดาห์ อีกทั้ง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ปีที่แล้วแตะ 30 ล้านคน ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 33-34 ล้านคน จึงประเมินเบื้องต้นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นผลกระทบระยะสั้นมากกว่าระยะยาว

สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวของไทย อันดับหนึ่งที่มีต่างชาติเข้ามา คือ กรุงเทพฯ สัดส่วนประมาณ 60% รองลงมาเป็นภาคใต้ เช่น ภูเก็ต สมุย หัวหิน แม้ว่าขณะนี้จะมีเหตุระเบิดในหลายพื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ แต่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดท่องเที่ยวเมืองไทยเปลี่ยนไป ไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะพื้นที่ใดที่หนึ่ง จากการที่มีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามา คิดเป็นสัดส่วน 30% สูงที่สุดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคทั่วไทยทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ เมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ จึงไม่ได้ส่งผลกระทบทั้งประเทศ

ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหล่านี้หลายครั้งและฟื้นตัวได้เร็ว เกิดจากการที่ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีบริการครบรอบด้านทั้งนักท่องเที่ยวมาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว หรือจะมาติดต่อธุรกิจ ประชุมสัมมนา ไทยมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับ ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเที่ยวซ้ำสัดส่วนสูงถึง 65% ซึ่งแม้แต่ช่วงที่ยุโรปหรืออเมริกามีปัญหาเศรษฐกิจ แต่นักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกันยังเข้ามาต่อเนื่องเช่นกัน

ด้าน นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เดอะ รีเจ้นท์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมรีเจ้นท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบระยะสั้นต่อตลาดคนไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก เพราะเกิดเหตุช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์และเป็นเทศกาลวันแม่ที่มีลูกค้าจองห้องพักเพื่อพาครอบครัวและแม่มาพักผ่อนกันมาก ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยที่จองไว้เต็มเกือบ 100% แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงทางโรงแรมถึงต้องเปิดให้ลูกค้ายกเลิกห้องพักโดยไม่ชาร์จค่าเสียหายเพราะเข้าใจว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เชื่อว่าโรงแรมในหัวหินและพื้นที่โดยรอบทั้งหมดก็ปฏิบัติในแนวทางนี้เหมือนกัน

ด้านผลกระทบต่อตลาดต่างประเทศ เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้น คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อน ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ทันที เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของไทยที่ผ่านวิกฤตความรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง และฟื้นฟูตลาดได้รวดเร็วมาตลอดทั้งที่เกิดเหตุในเมืองใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการท่องเที่ยว ครั้งนี้ก็หวังว่าจะผ่านเหตุการณ์ไปได้ด้วยดีเช่นกัน