posttoday

ตั้งตลาดสินค้าจังหวัด ชู Local Economy

19 มกราคม 2560

"สมคิด" สั่ง "พาณิชย์" จัดตั้งตลาดกลางสินค้าทั่วประเทศแยกกลุ่มจังหวัดเชื่อมโยงท่องเที่ยว ขีดเส้นเสร็จ 3-6 เดือน

"สมคิด" สั่ง "พาณิชย์" จัดตั้งตลาดกลางสินค้าทั่วประเทศแยกกลุ่มจังหวัดเชื่อมโยงท่องเที่ยว ขีดเส้นเสร็จ 3-6 เดือน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามงานด้านค่าครองชีพ และการผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy) ที่กระทรวงพาณิชย์ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปประชุมหารือร่วมกับพาณิชย์จังหวัดทั้งหมด เพื่อจัดทำแผนการจัดตั้งตลาดกลางสินค้า ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ทั่วประเทศมีตลาดกลางเป็นช่องทางการขายสินค้าให้กับคนท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

ทั้งนี้ ตลาดกลางที่ให้ทำแผนจัดตั้งขึ้นมาแบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือ 1.ตลาดกลางทั่วไป 2.ตลาดกลางสินค้าเฉพาะอย่าง ที่จะเป็นตลาดขายสินค้าเอกลักษณ์ของจังหวัดหรือท้องถิ่นนั้นๆ และ 3.ตลาดกลางชุมชน ที่จะเป็นลักษณะตลาดชุมชนประชารัฐ ซึ่งต้องทำงานร่วมกับกองทุนหมู่ บ้าน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงมหาดไทย และทั้งหมดต้องเชื่อมโยงกับด้านการท่องเที่ยว โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือน

"การจัดตั้งตลาดกลางจะแบ่งตามกลุ่มจังหวัดที่ได้กำหนดออกมาแล้ว โดยทางพาณิชย์จังหวัดต้องไปคิดแผนว่าจะต้องมีตลาดกลางกี่แห่ง จังหวัดไหนบ้าง ขายสินค้าอะไรบ้าง ต้องบอกมาให้ชัด เช่น พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดทะเลก็อาจทำตลาดสินค้าทะเล เป็นต้น ทุกรูปแบบตลาดเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพราะถ้าเชื่อมได้จะมีผลต่อเศรษฐกิจในประเทศสูงมาก เช่น จังหวัดกลุ่มภาคใต้มีนักท่องเที่ยวจีน ก็อาจทำตลาดเฉพาะสินค้าทุเรียน อย่างนี้เป็นต้น" นายสมคิด กล่าว

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามดูแลสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มขยับสูงขึ้นแล้ว และอาจมีผลทำให้ต้นทุนการผลิต และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นจนผู้ประกอบการอาจขอปรับขึ้นราคาขายได้ ถือเป็นการทำงานเชิงรุกก่อนที่ราคาสินค้าจะปรับขึ้น และต้องใช้ห้องปฏิบัติการสินค้า (วอร์รูม) ติดตามความเคลื่อนไหวให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งให้ใช้กฎหมายเข้ามาจัดการกับผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม ต้องดูแลไม่ให้ผู้ค้าเอาเปรียบฉวยโอกาสขึ้นราคาซ้ำเติมประชาชนด้วย

"เรื่องราคาสินค้า กระทรวงพาณิชย์มีห้องปฏิบัติการติดตามราคาสินค้าอยู่แล้ว โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะรายงานสถานการณ์ราคาสินค้าแต่ละจังหวัดเข้ามาที่กระทรวงและกรมการค้าภายในทุกวัน ถ้าพบที่ใดมีสถานการณ์ผิดปกติ กระทรวงจะรับทราบและแก้ปัญหาได้ทันท่วงที แต่ได้สั่งการไปแล้วว่าถ้าจังหวัดใดมีปัญหาเจ้าหน้าที่จะโดนหนัก แต่ถ้าสินค้าอะไรจะขอปรับขึ้น ก็ต้องแจ้งล่วงหน้า ถ้าไม่มีเหตุผลสมควรจะไม่ให้ปรับขึ้นรวมถึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้เอาเปรียบประชาชนด้วย" นายสมคิด กล่าว

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำร้านธงฟ้าประชารัฐซึ่งขายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 15-20% กระจายเข้าไปในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ร้านธงฟ้าประชารัฐที่จะจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นราคาต่ำกว่าตลาด 15-20% นั้น กระทรวงจะประสานผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าให้นำสินค้าแบรนด์มาร่วมโครงการ เบื้องต้นจะมีสินค้าเข้าร่วมประมาณ 20 รายการ จะจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้า 140 แห่งทั่วประเทศ และร้านโชห่วย 2 หมื่นร้าน โดยในวันที่ 20 ม.ค.นี้ กระทรวงจะหาร่วมกับสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ในการวางแนวทางดำเนินงานก่อนที่สัปดาห์หน้าจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้า