posttoday

คอสตาริกา กับการสร้างประเทศ ที่มีความสุขที่สุดด้วยกาแฟ

15 พฤศจิกายน 2560

เรื่อง เอกศาสตร์ สรรพช่างภาพ เอพีสำหรับคอกาแฟเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย การได้ชง ได้ดื่มกาแฟทุกเช้า ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันที่หาได้ง่ายๆ

เรื่อง เอกศาสตร์ สรรพช่างภาพ เอพี

สำหรับคอกาแฟเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย การได้ชง ได้ดื่มกาแฟทุกเช้า ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันที่หาได้ง่ายๆ

สำหรับคนอื่นๆ ที่ไม่ดื่มกาแฟ ผมเชื่อว่าแต่ละวันคงมีโมเมนต์ส่วนตัวเอาไว้หาความสุข เช่น เล่นกับแมว อ้อล้อกับคนรักหรือมีเวลาดูแลลูกๆ ก็ทางใครทางมันครับ เป็นเรื่องส่วนบุคคล

แต่การจะทำให้ประเทศประเทศหนึ่งมี "ความสุข" ถึงระดับที่ทุกคนรู้สึกว่า ดีจังที่ได้เกิดมาในประเทศนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่มีความสุขนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและคงดูเป็นไปไม่ได้เลย หากจะบอกว่ามีบางประเทศที่สามารถสร้างความสุขของคนในประเทศจากการทำธุรกิจกาแฟ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่าประเทศนั้นมีอยู่จริง และคุณคงสงสัยว่าพวกเขาทำได้อย่างไร

Gallup World Poll ทำการสำรวจว่าประเทศไหนที่มีความสุขด้วยการใช้แบบสอบถามวัดความสุขของคนในประเทศต่างๆ กว่า 140 ประเทศ โดยวัดความสุขจาก 3 ปัจจัย คือ หนึ่ง-ชีวิตในภาพรวม สอง-ความสุขในชีวิตประจำวัน สาม-สุขภาพอนามัยของคน คำถามมีตั้งแต่เรื่องง่ายๆ อย่าง "วันนี้คุณได้หัวเราะไหม" หรือการถามคำถามเรื่องโรคภัยไข้เจ็บและความรู้สึกพออกพอใจกับชีวิตประจำวันของตัวเอง

ประเทศคอสตาริกา เป็นประเทศเล็กๆ ในอเมริกากลางที่ติดโผประเทศที่มีความสุขในชีวิตต่อเนื่องมาหลายปี จากการสำรวจพบว่าคนคอสตาริกามีความรู้สึกเชิงบวกในแต่ละวันในการใช้ชีวิตมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก คอสตาริการ่ำรวยที่สุดหรือเปล่า มีนวัตกรรมล้ำหน้าที่สุดใช่ไหม มีรายได้ต่อหัวสูงสุดหรืออย่างไร เปล่าเลย-ตรงกันข้ามประเทศนี้ผู้คนไม่ได้มีรายได้สูงนัก เป็นประเทศที่พึ่งพาการเกษตรอยู่มาก แต่อะไรที่ทำให้คอสตาริกามีความสุข แถมกาแฟเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไรกับความสุข

มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คอสตาริกากลายเป็นประเทศผู้ปลูกกาแฟแห่งนี้มีความสุข

ประการแรก คอสตาริกาเป็นประเทศที่มีภูเขาสูงต่ำสลับกันไป พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 700-1,300 ฟุต ขณะที่ประเทศในแถบอเมริกากลางส่วนมากซึ่งเป็นที่ราบ การมีที่ราบกว้างใหญ่เปิดโอกาสให้ประเทศถูกครอบงำจากชนชั้นนายทุน ทหารหรือนักการเมืองที่มีอิทธิพลได้มากกว่า เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ แต่การที่คอสตาริกาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสลับหุบเหว และการขาดแคลนแรงงาน ประชากรไม่มากนัก ทำให้ยากที่ใครสักคนจะสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็น ผู้มีอิทธิพล

หลังจากที่ได้รับเอกราชจากสเปนในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 คอสตาริกาเริ่มต้นระบอบประธานาธิบดีของตัวเองจากการเลือกคนที่เป็น "ครู" มาเป็นผู้นำประเทศ แทนที่จะเป็นนักธุรกิจหรือทหาร และมุ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีสุขภาวะที่ดีพร้อมๆ กับการให้การศึกษา ในช่วงทศวรรษ 1940 เป็นช่วงเวลาที่บทบาทของกองทัพนั้นหมดไปจากระบอบการเมือง และทำให้คอสตาริกาสามารถพัฒนาตัวเองผ่านการลงทุนกับเยาวชน การสร้างสุขอนามัยที่ดี คอสตาริกาใช้เวลา 21 ปีหลังจากนั้นในการสร้างระบบสาธารณสุขที่ทำให้เกิดสถานีอนามัยประจำหมู่บ้านแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายไว้บริการประชาชน และสิ่งที่เติบโตมาคู่กับการพัฒนาสาธารณสุขก็คือเรื่องการพัฒนาระบบการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกกาแฟ

ต้องขอบคุณ William Le Lacheur กัปตันเรือ The Monarch ของอังกฤษ ที่เข้ามาค้าขายในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เห็นความเป็นไปได้ของการปลูกกาแฟที่คอสตาริกา ซึ่งแต่เดิมที่นี่เป็นแค่คลังเก็บเมล็ดกาแฟและบรรจุหีบห่อก่อนส่งไปขายยังยุโรป วิลเลียมมาวางรากฐานการปลูกกาแฟ และเป็นคนที่ทำให้กาแฟจากคอสตาริกาเป็นที่รู้จักในยุโรป และวางรากฐานระบบการค้าขายกาแฟไว้

ความโชคดีอีกอย่างของคอสตาริกา คือการที่พื้นที่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในเขตเซ็นทรัล แวลลีย์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ สามารถผลิตกาแฟคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นหุบเขาสูงต่ำล้อสลับกันไปทั้งประเทศ ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การปลูกกาแฟโดยธรรมชาติ ไม่นานนักการปลูกกาแฟของคนคอสตาริกาก็หลั่งไหลแผ่ซ่านออกไปจากส่วนกลางของประเทศสู่ดินแดนอื่นๆ ของประเทศ และกลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ในปี 1996 กาแฟกลายเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับ 1 ของประเทศนี้ และคิดเป็นเกือบ 30% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับตลาดโลกแล้วกาแฟจากคอสตาริกาคิดเป็น 1% ของมูลค่ากาแฟของทั้งโลก หลักการการทำอุตสาหกรรมกาแฟของคอสตาริกาให้มีความสุขก็คือ พวกเขาไม่ทำมาก แต่ทำให้ดี (เหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาทำมากไม่ได้เพราะพื้นที่ที่เข้าถึงลำบากและการขาดแคลนแรงงาน แรงงานในไร่กาแฟส่วนมากจึงเป็นแรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านและเข้ามาทำงานในฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต) กาแฟจากคอสตาริกาแถบ Tarraz'u ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกกาแฟที่ดีที่สุดในโลกในปี 2012

Tarrazu Geisha ถือเป็นกาแฟที่แพงที่สุดที่สตาร์บัคส์ซื้อไปและขายใน 48 ร้านเท่านั้นทั่วอเมริกา และยังมีเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกหลายแห่ง ทั้งในเขต West Valley เขต Tres R'ios, Cartag กาแฟจากคอสตาริกาจะให้ทั้ง Body และ Avidity ที่ดีเยี่ยม ออกเปรี้ยวแต่ไม่มากเมื่อเทียบกับกาแฟจากแอฟริกา ให้อโรมาที่ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อชงแบบดริป หรือ French Press การปลูกกาแฟในคอสตาริกาไม่ได้ราบรื่นเหมือนกาแฟนะครับ พวกเขาเผชิญปัญหาหลากหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่อง สิ่งแวดล้อมและปัญหาแรงาน แต่สิ่งที่ทำให้คอสตาริกาหลุดพ้นจากวงเวียนของความยากจนก็คือ ความมั่นคงเรื่องสุขอนามัยและประชาชนส่วนมาก มีความพอใจกับการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขา ที่ได้มีโอกาสทำงานใกล้ๆ บ้าน มีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชนและทำการเกษตรกับพืชที่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้แบบไม่ให้ลำบากมากไปนัก

แล้วเราสามารถหากาแฟที่ดีได้จากประเทศที่คนไม่มีความสุขได้ไหม?

เดี๋ยวคราวหน้าเรามาหาคำตอบกันครับ