posttoday

เสือดาว VS เสือจากัวร์

18 มีนาคม 2561

นับแต่เกิดคดีเสือดำทุ่งใหญ่ฯ เป็นต้นมา สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ การรณรงค์ในโลกโซเชียลให้รักหรือสงสารเสือดำ (Black Leopard) กลับนำรูปของเสือจากัวร์ดำ (Black Jaguar

โดย ปริญญา ผดุงถิ่น

นับแต่เกิดคดีเสือดำทุ่งใหญ่ฯ เป็นต้นมา สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ การรณรงค์ในโลกโซเชียลให้รักหรือสงสารเสือดำ (Black Leopard) กลับนำรูปของเสือจากัวร์ดำ (Black Jaguar) มาใช้กันอย่างกว้างขวาง

ถามว่าผมซีเรียสกับเรื่องพวกนี้หรือไม่? ขอตอบว่า ไม่เลย ก็ในระดับชาวบ้านทั่วไป ชีวิตประจำวันก็ไม่ได้มาใส่ใจลงรายละเอียดกับเสือสิงห์พวกนี้อยู่แล้ว

แต่ผมถือเป็นโอกาสอันดีที่จะให้ความรู้กับผู้อ่าน “สิงสาราสัตว์” เสียเลย ว่าตัวตนจริงๆ ของ Leopard กับ Jaguar มันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ผมไปเสาะหาข้อมูลมาแปล ให้ท่านอ่านจบภายใน 2 นาที

ในเว็บของ The Wildcat Sanctuary เขามีบทความชื่อว่า “5 จุดแตกต่างสำคัญ ระหว่างเสือดาวกับเสือจากัวร์” โดยเกริ่นว่าแม้แต่นายฝรั่งเอง ก็ยังมึนๆ งงๆ แยกไม่ออก เมื่อเห็นเสือดำกับเสือจากัวร์ดำ ในกรงติดกัน มาดูกันเลยความแตกต่าง 5 อย่าง มีอะไรบ้าง

1.โครงสร้างร่างกาย เสือจากัวร์จะสั้นกว่า บึกบึนกว่าเสือดาว หางก็สั้นกว่าเสือดาว

 ถ้าให้พูดตามความเข้าใจของผมละก็ เสือจากัวร์มีรูปทรงคล้ายๆ เสือโคร่งที่ย่อส่วนลงมา ไม่ใช่แนวปราดเปรียวแบบเสือดาว

2.ลวดลายขน เสือดาวและเสือจากัวร์ต่างมี “ลายดอกกุหลาบ” แต่เสือจากัวร์จะมีจุดสีดำตรงใจกลางของ “ดอกกุหลาบ” ด้วย ขณะที่เสือดาวไม่มี

3.ขนาดตัว เสือจากัวร์ คือแมวใหญ่อันดับ 3 ของโลก (ต่อจากเสือโคร่งและสิงโต) ส่วนเสือดาวเป็นน้องนุชสุดท้องในบรรดาแมวใหญ่บิ๊กโฟร์

4.พฤติกรรม ทั้งเสือดาวและเสือจากัวร์ต่างว่ายน้ำเก่ง แต่เสือจากัวร์ชอบใช้เวลาอยู่กับน้ำ ขณะที่เสือดาวจะหลีกเลี่ยงการลงน้ำ

5.แหล่งกระจายพันธุ์ เสือจากัวร์และเสือดาวอยู่แยกทวีปจากกันอย่างเด็ดขาด เสือจากัวร์เป็นเสือแห่งทวีปอเมริกาใต้ ส่วนเสือดาวกระจายตัวในโลกกว้างใหญ่กว่า พบทั้งในทวีปแอฟริกา และส่วนใหญ่ของเอเชีย

ยังมีข้อมูลจากแหล่งอื่นมาเติมให้แน่นขึ้นด้วย สำหรับผมเอง จุดที่ง่ายที่สุดที่จะแยกว่าไผเป็นไผ ก็แค่ดูที่ใบหน้าของพวกมัน ไม่ว่าจะในเวอร์ชั่นดาวหรือดำ ใบหน้าของเสือดาวและเสือจากัวร์มันต่างกันมากพอสมควร

ผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ หากว่าใบหน้าของเสือดาว เทียบเท่ากับหมาไทย หน้าของเสือจากัวร์ก็จะเทียบได้กับหมาร็อตไวเลอร์ ดูแข็งแกร่งและดุดันกว่า

ความแกร่งที่ส่วนหัวของเสือจากัวร์ ส่งผลให้มันได้ชื่อว่า “สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพลังการกัดรุนแรงที่สุดในโลก” แรงกัดปาไป 2 พันปอนด์

ถ้าวัดกับสัตว์ทุกชนิดในโลก แรงกัดของมันมาเป็นอันดับ 4 เป็นรองก็แค่จระเข้แม่น้ำไนล์ จระเข้น้ำเค็ม และจระเข้อัลลิเกเตอร์อเมริกัน เหนือกว่าเสือโคร่งที่มาอันดับ 9 และสิงโตอันดับ 10

เสือจากัวร์เป็นเจ้าแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ มีคลิปในยูทูบให้ชมเยอะแยะ ปฏิบัติการล่าจระเข้หรือเหยื่ออื่นๆ ในน้ำ แบบว่าดำน้ำลงไปกัดก็ยังได้ ขณะที่เสือดาว ภาพลักษณ์ความเก่งกาจก็ชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไร ในฐานะนักปีนต้นไม้ สามารถคาบหิ้วเหยื่อที่ตัวโตกว่ามัน ขึ้นต้นไม้ไปกินบนกิ่งสูง

ทั้งนี้ เสือจากัวร์ก็พอจะปีนต้นไม้ได้เช่นกัน การวิจัยล่าสุดด้วยกล้องดักถ่าย ได้หลักฐานเสือจากัวร์ปีนต้นไม้พันธุ์ต่างๆ นับสิบต้น

เพียงแต่ความที่มันเป็น “สุดยอดนักล่า” (Apex Predator) ในอเมริกาใต้ ซึ่งสัตว์อื่นทุกอย่างเป็นเหยื่อของมันได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะจระเข้ หรืองูอนาคอนด้า (เลื้อยสยองโลก) จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องหิ้วเหยื่อขึ้นต้นไม้ ต่างจากเสือดาวที่จำเป็นต้องพาซากเหยื่อหนีสิงโต หมาไฮยีน่า หมาในแอฟริกัน

เสือดาวเป็นสัตว์ที่ออกจะหวงถิ่น มีภารกิจวุ่นวายกับการลาดตระเวนค่อนข้างมาก แต่เสือจากัวร์จะไม่ค่อยแคร์เรื่องอาณาเขตเท่าใดนัก จากการวิจัยพบว่าเสือจากัวร์แต่ละตัวมีพื้นที่ทับซ้อนกันและกันที่กว้างมาก

เหลือบ้านที่เป็น Core Area ห้ามใครล้ำเส้นเด็ดขาด แค่เล็กๆ พอ