อคส.เช็กบิลข้าวเสื่อม ส่งหนังสือทวงค่าเสียหายคลังสินค้า-เซอร์เวเยอร์
อคส.ยื่นหนังสือไล่ทวงค่าเสียหายคลังสินค้าและเซอร์เวเยอร์รวม 127 สัญญา เหตุทำข้าวรัฐเสื่อมขีดเส้น 7 วัน หากไม่จ่ายยึดแบงก์การันตี
อคส.ยื่นหนังสือไล่ทวงค่าเสียหายคลังสินค้าและเซอร์เวเยอร์รวม 127 สัญญา เหตุทำข้าวรัฐเสื่อมขีดเส้น 7 วัน หากไม่จ่ายยึดแบงก์การันตี
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2561 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ส่งหนังสือทวงถาม (Notice) ไปให้คู่สัญญาทั้งเจ้าของคลังสินค้าที่ อคส.เช่าเพื่อฝากเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล และบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ที่ทำผิดสัญญากับ อคส. รวมทั้งหมด 127 สัญญา เพื่อให้คู่สัญญาทั้งหมดชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับข้าวสารในสต๊อก เช่น ข้าวเสื่อม หรือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน โดยมีกำหนดจะต้องมาชำระค่าเสียหายภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือทวงถาม
ทั้งนี้ หลังจากที่ อคส.ได้ส่งหนังสือทวงถามไปแล้ว ปรากฏว่ามีหนังสือจากคู่สัญญาทยอยส่งมายัง อคส. ซึ่งโต้แย้งว่าไม่ได้ทำให้ข้าวเสียหรือเสื่อมคุณภาพ เพราะมีการดูแลรักษาคุณภาพ และรมยาตามหลักวิชาการอย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงจะไม่ชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับ อคส. ส่งผลให้ อคส.จำเป็นต้องยึดหลักประกันสัญญา (แบงก์การันตี) โดยจะทำหนังสือถึงธนาคารที่คู่สัญญาเหล่านี้นำเงินไปฝากไว้เป็นหลักประกันสัญญา เพื่อขอยึดหลักประกันสัญญา และธนาคารต้องนำเงินมาชำระหลักประกันสัญญาให้กับ อคส.ภายใน 15 วัน หากไม่ชำระภายในกำหนด อคส.จะส่งให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องร้องทั้งคู่สัญญาที่ทำผิดสัญญา และธนาคารที่ทำผิดสัญญาค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 127 สัญญานั้น เป็นส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 244 สัญญา ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 2551/2552 ปี 2554/2555 ปี 2555/2556 และปี 2556/2557 ที่คู่สัญญากระทำผิดสัญญาจนรัฐเสียหาย และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ อคส.เร่งรัดส่งอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่งภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 2561 ก่อนที่คดีจะขาดอายุความวันที่ 1 ม.ค. 2563 โดยทั้ง 127 สัญญา อคส.ได้ตรวจสอบความเสียหายเสร็จสิ้น และได้ยื่นหนังสือทวงถามไปแล้ว
สำหรับ 117 สัญญาที่เหลือ อคส.จะสามารถตรวจสอบความเสียหายและยื่นหนังสือทวงถามให้กับคู่สัญญาได้ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ หากคู่สัญญาไม่มาชำระค่าเสียหายจะรวบรวมเอกสารส่งให้พนักงานอัยการฟ้องดำเนินคดีต่อไป