ชมแปลงเตยหอม แหล่งเกษตรคุณภาพ'ปทุมธานี'

โดย พงศ์พัทธ์ วงศ์ยะลา 

ปทุมธานีนั้นถือเป็นพื้นที่เกษตรสำคัญใกล้เมืองกรุง ดังนั้นคุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิตจึงเป็นสิ่งที่ถูกเน้นย้ำ

พินิจ บุญเลิศ ผวจ.ปทุมธานี บอกว่า ผลักดันให้เกษตรกรผลิตสินค้าคุณภาพปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ ราคาเป็นธรรม และผู้บริโภคพึงพอใจ โดยใช้นโยบาย “ตลาดไทยสู่ตลาดโลก” เป็นเป้าหมายการพัฒนาสินค้าเกษตรขั้นต่ำ คือ มาตรฐาน GAP มีการตรวจสอบคุณภาพผลผลิต สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีพื้นที่จำหน่ายโดยตลาดกลางซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในจังหวัดที่บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การรับซื้อสินค้าเกษตรโดยตรง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เมื่อเกษตรกรอยู่ดีกินดี ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับสินค้าเกษตรที่ปลอดภัย เป็นแนวทางประชารัฐอย่างที่รัฐบาลได้ส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนต่อไปอย่างยั่งยืน

ขณะที่ สมเดช คงกะพันธุ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สำหรับพืชสมุนไพรที่กำลังส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกเพื่อการค้า ได้แก่ เตยหอม ซึ่งมีการปลูกมานาน 5-6 ปี ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกมากอยู่ที่ ต.คลองสาม-คลองสี่ อ.คลองหลวง มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเตยหอมคลองสาม พื้นที่รวมไม่ต่ำกว่า 600 ไร่ เพื่อทำเตยแปลงใหญ่และพัฒนาการผลิตเตยหอมให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP และเป็นที่ต้องการของตลาด

“เตยหอมไม่ได้มีเฉพาะความหอมเท่านั้น แต่มาพร้อมสีเขียวตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับเพิ่มสีสันให้อาหาร อีกทั้งน้ำเตยหอมยังมีสรรพคุณบำรุงหัวใจด้วย การปลูกเตยลงทุน 1 ครั้ง เก็บเกี่ยวได้ 10 ปี ปลูกเตยครั้งแรกแม้ต้องรอนาน 5-6 เดือน ถึงจะตัดได้ พื้นที่ 1 ไร่ จะได้ใบหนักประมาณ 5 ตัน และถ้าเป็นช่วงหน้าฝนจะได้ราคาดีมากถึงกิโลกรัมละ 10-12 บาท ลงทุนครั้งแรกตัดใบหนแรกก็คืนทุนแล้ว หลังจากนั้นทุกๆ เดือนก็ตัดได้ตลอด ถือเป็นกำไรล้วนๆ ทำได้นาน 10 ปี”

เกษตรจังหวัดปทุมธานี บอกว่า การเก็บเกี่ยวเมื่อเตยมีอายุ 6-7 เดือน 1.ขายต้นสำหรับทำดอกไม้สด ความสูงประมาณ 20-30 ซม. มีรายได้ 2.8 หมื่นบาท/ไร่ 2.ขายใบ ความยาวประมาณ 30 ซม. ไร่ละ 600 กก. รายได้ 4,800 บาท/ไร่ 3.หน่อ แขนงเตย สำหรับปลูก ไร่ละ 2 หมื่นหน่อ รายได้ 1 หมื่นบาท/ไร่

ด้าน สมใจ คชศิลา เกษตรกรแปลงเตยคลองสามที่พลิกพื้นนาที่มีอยู่ 20 ไร่ หันมาปลูกต้น “ใบเตย” และได้ผลผลิตอย่างงาม สามารถเก็บเกี่ยวจำหน่ายได้ทุกเดือน ทั้งที่มีพ่อค้ามาซื้อถึงบ้าน และยังส่งขายในตลาดหลักของ จ.ปทุมธานี อีกด้วย

“ในตลาดตอนนี้มีความต้องการใบเตยหอมเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการทำนา 1 ไร่ อย่างเก่งได้มากสุด 1 เกวียน ขายได้ 8,000-9,000 บาท หักค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าพันธุ์ แล้วเหลือแค่ไม่เท่าไร รายได้ห่างไกลกันลิบลับ แถมต้องลงทุนทำใหม่ทุกฤดู ต่างกับการปลูกเตย ลงทุนครั้งเดียวเป็นเสือนอนกินได้นาน 10 ปี” สมใจ เล่าถึงการเปลี่ยนแนวทางจากการทำนาปลูกข้าวมาปลูกเตยหอมอย่างภาคภูมิใจในผลสำเร็จที่ได้