‘ไทย เอนโท ฟู้ด’ ผู้นำโปรตีนจากแมลงครบวงจร
หากถามถึงแหล่งอาหารแห่งอนาคต ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการผลิตอาหารที่ไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนโลกใบนี้
เรื่อง วราภรณ์ เทียนเงิน
หากถามถึงแหล่งอาหารแห่งอนาคตที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการผลิตอาหารที่ไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนโลกใบนี้สิ่งนั้นคือแมลง ซึ่งมีโปรตีนที่เหมาะสมกับความต้องการของคน และเอกชนไทยมีความสนใจสร้างผลิตภัณฑ์โปรตีนจากแมลงกับบริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด ที่เป็นผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์แมลงอย่างครบวงจร ถือเป็นฟู้ดเทคสตาร์ทอัพของไทย
“ธีรณัฐ รุ่งสุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอนโท ฟู้ด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับแมลงอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มีฟาร์มที่เพาะเลี้ยงจิ้งหรีด การมีโรงงานที่แปรรูปผลิตภัณฑ์และการสร้างผลิตภัณฑ์ผงโปรตีนจากจิ้งหรีด พร้อมกับมีการทำวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ร่วมกับนักวิจัยสถาบันวิจัยของประเทศไทยอย่างเข้มข้น
“ผมเรียนจบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศระดับปริญญาตรีและโททางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ จากสหรัฐ หลังจากนั้นได้เปิดทำร้านอาหารอยู่ที่สหรัฐ เมื่อตัดสินใจกลับมาไทยจึงอยากสร้างธุรกิจที่มีผลกระทบต่อชุมชนและร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งได้มีความสนใจแมลงเนื่องจากไทยมีศักยภาพและเหมาะสมกับการเลี้ยงแมลงอย่างมาก” ธีรณัฐ กล่าว
อีกทั้งข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ระบุว่า ในปี 2592 ประชากรในโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,500 ล้านคน จากปัจจุบันที่มีประชากรในโลกรวม 6,000 ล้านคน อาหารที่ผลิตก็จะไม่เพียงพอ สิ่งที่จะเข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารของคนในโลกได้คือการใช้เทคโนโลยีมาช่วย และแหล่งโปรตีนแห่งอนาคต คือ “แมลง”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดที่เป็นฟาร์มต้นแบบและเป็นแบบปิดอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ มีขนาดประมาณ 900 ตารางเมตร และผลิตจิ้งหรีดได้ประมาณ 120 ตัน/ปี ที่เป็นตัวสด หลังจากนั้นจึงนำไปสู่การแปรรูปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผงโปรตีนจิ้งหรีด ซึ่งจิ้งหรีดจำนวน 4 กิโลกรัม จะนำไปแปรรูปสู่ผงจิ้งหรีดได้ประมาณ 1 กิโลกรัม โดยผงโปรตีนแบบเข้มข้นได้ทำการตลาดในชื่อแบรนด์ “Sixtein” เน้นเจาะตลาดลูกค้าแบบบีทูบีหรือนำไปพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
โดยการพัฒนานี้ได้รับการส่งเสริมจากนักวิจัยจากอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร และจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สนช. (NIA) เข้ามาร่วมพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและได้คุณภาพของวัตถุดิบที่มีระบบตรวจสอบแบบย้อนกลับ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค
“ผงโปรตีนจิ้งหรีดนำไปเจาะตลาดผู้ผลิตสินค้าต่างๆ โดยมีลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าพาสต้าจากอิตาลี ได้ซื้อผงโปรตีนจิ้งหรีดเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมของพาสต้าส่งออกไปต่างประเทศ” ธีรณัฐ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ข้าวกล้องผสมจิ้งหรีดอบกรอบไรซ์คริก (Rice Crik) ที่เป็นขนมทำมาจากข้างกล้องหอมมะลิผสมด้วยโปรตีนจิ้งหรีด ซึ่งได้เริ่มทำตลาดแล้ว
“ธีรณัฐ” กล่าวต่อว่า กำลังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ทำโครงการวิจัยแบบมุ่งเป้าหรือสเปียเฮดกับการเลี้ยงหนอนทหารเสือ ที่นำมาพัฒนาสู่โปรตีนสำหรับอาหารสัตว์ เพื่อทดแทนอาหารสัตว์ในปัจจุบันที่ทำจากปลาบ่นและจะมีปัญหาผลผลิต ราคาที่ผันผวนและปัญหาโลหะหนักปนเปื้อน หลังจากนั้นคาดว่าจะมีการสร้างโรงงานต้นแบบอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร ซึ่งโครงการนี้ได้มีนักวิจัยจาก
สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้มาร่วมพัฒนา
อีกทั้งจิ้งหรีดจะร่วมทำวิจิยต่อเนื่องร่วมกับนักวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์โปรตีนแบบเข้มข้นและสามารถนำไปวิจัยต่อยอดโปรตีนจากแมลงไปสู่การผลิตฟังก์ชั่นฟู้ด หรือการนำไปร่วมผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาหรืออื่นๆ ได้ต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทถือเป็นผู้ผลิตแมลงและแปรรูปอย่างครบวงจร โดยเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในกลุ่มฟู้ดเทค ของประเทศไทย ที่มีความสนใจร่วมมือทำการวิจัยและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ และสร้างแหล่งโปรตีนที่มีคุณค่าสู่ผู้บริโภคและตลาดโลก พร้อมกันนี้ก็มีเป้าหมายอยากร่วมยกระดับอุตสาหกรรมแมลงของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง เพื่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยต่อไป