จับตา ประธาน กสทช.แทรกวาระลับชง “ไตรรัตน์” ขึ้นเลขาธิการกสทช.

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.วันที่ 9 ส.ค.2566 อาจมีวาระลับของประธานกสทช.ในการนำเสนอชื่อเลขาธิการกสทช.คนใหม่ คือ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการกสทช.และรองเลขาธิการกสทช.เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบผลการคัดเลือกโดยอำนาจประธานกสทช.ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ 

ขณะที่หากย้อนกลับไปเมื่อการประชุมวันที่ 9 มิ.ย.2566 รายงานการประชุมที่ได้รับรองไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2566 ระบุชัดว่า ที่ประชุมมีมติว่า นายไตรรัตน์ อาจมีการกระทำความผิดเข้าข่าย ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีการให้เงินสนับสนุนถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ซึ่งในที่ประชุมเสียงข้างมากยังมีมติให้เปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการจาก นายไตรรัตน์ เป็น นายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการกสทช.แทน จนกว่าการสอบสวนเรื่องลิขสิทธิ์บอลโลกจะเสร็จสิ้น แต่ในภายหลังประธานกสทช.กลับไม่เซ็นคำสั่งเปลี่ยนตัวตามมติที่ประชุม แต่อย่างใด

แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำดังกล่าวของประธาน กสทช.เป็นการปฏิบัติที่มีเจตนามิชอบ ผิดจริยธรรม ไม่สนใจกฎระเบียบใดๆ ส่อผิด ม.157 เนื่องจากเป็นการฝืนมติเรื่องการสรรหาเลขาธิการกสทช.ที่เอื้อพวกพ้อง หรือไม่ โดยประธานใช้โอกาส หัวข้อประชุมวาระอื่นๆ ที่ตนเองสามารถเสนอวาระใดก็ได้ เสนอเรื่องการแต่งตั้ง นายไตรรัตน์ด้วยตนเอง โดยไม่สนใจเรื่องอื่นๆ ที่ยังคงค้างอยู่กว่า 40 เรื่อง 

ดังนั้น การแทรกวาระ เพื่อแต่งตั้งบุคคลที่ถูกกังขาในคุณสมบัติ อีกทั้ง ยังเป็นผู้เคยถูก กสทช. มีมติให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ดังกล่าว เหมาะสมแล้วหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ประธานกสทช.เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดวันที่ 9 ส.ค.นี้ จะไม่มีการเสนอชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นเลขาธิการกสทช.ต่อที่ประชุมแต่อย่างใด เนื่องจากต้องหารือกับบอร์ดก่อนถึงวิธีการ หลักเกณฑ์ในการคัดเลือก โดยบอร์ดจะต้องทำหน้าที่ลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบด้วย ซึ่งหากรายชื่อที่ประธานกสทช.เสนอไม่ได้รับการลงมติจากบอร์ด จำเป็นต้องสรรหาใหม่