posttoday

PTT นำ AI & Robotics เพิ่มมูลค่ายกระดับธุรกิจ

22 สิงหาคม 2566

PTT นำ AI & Robotics ช่วยเพิ่มมูลค่า ยกระดับธุรกิจ ฝากรัฐบาล สนับสนุนโรงงานผลิตชิปในประเทศ พร้อมให้ความสำคัญด้าน Cybersecurity

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยในงานสัมมนา “AI Revolution.. AI : เปลี่ยนโลกธุรกิจ” ที่จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ หัวข้อ AI : เปลี่ยนโลกธุรกิจ ว่า ปัจจุบันระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ได้เข้าไปทุกวงการ 

โดยกลุ่ม ปตท. ได้ใช้ AI & Robotics ต่อภาคธุรกิจ และจะช่วยยกระดับอาเซียนได้ถึง 13% ไทยมีอันดันที่ 2 ที่ทำเรื่องอีโคโนมี ถือเป็นโอกาสของ ปตท. และประเทศไทย ซึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่จะนำ AI & Robotics มาใช้ คือ ทำให้ Robotics ฉลาดด้วยเอไอ เพราะภาคอุตสาหกรรมหนีไม่ได้ จะเห็นได้ว่าการใช้เอไอมาช่วยในกลุ่มธุรกิจ Oil & Gas จะมีโอกาสเพิ่มมูลค่าเบื้องต้นระดับ 8,000-12,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ปตท. ได้ปรับวิสัยทัศน์ใหม่ “Powering Life with future energy and beyond” หรือ “ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งชีวิต” ซึ่ง 1 ใน 5 คือ AI & Robotics ซึ่งมี 3-4 แอร์เรียที่โฟกัสและนำมาช่วยธุรกิจในเรื่องของพลังงานและแก๊ส โดยเทคโนโลยีด้านพลังงานจะเป็นโลกปัจจุบันที่อยากให้เป็นคาร์บอนต่ำตามเป้าหมายประเทศไทยที่ประกาศสู่ Net Zero ในปี 2065

"การจะสู่เป้าหมาย Net Zero จะต้องมีการกำหนดมาตรฐานในบรรทัดฐานเดียวกับที่ชาวโลกทำ เช่น นโยบายคาร์บอนเครดิต ที่สามารถซื้อขายได้ เพราะทั่วโลกมีมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งไทยยังใช้คาร์บอนเครดิตยังไม่ได้ ดังนั้น ระบบทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ จะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ แม้ราคาไม่เท่ากัน" นายอรรถพล กล่าว 

ขณะเดียวกัน ปตท. ใช้ดาต้าในการวางเน็ตเวิร์คสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทั่วประเทศ รวมถึงระบบซื้อขายพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน เพราะนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะชาติตะวันตกต่างต้องการใช้พลังงานสะอาด การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มจะช่วยเครมได้ว่าโรงงานใช้พลังงานสะอาดเท่าไหร่ 

ในขณะที่การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสุขภาพ ปตท. ได้ร่วมกับเอไอเอส ในเรื่องของการแพทย์ ผ่านแอปพลิเคชั่นหมอดี เพราะการแทพย์มีการรักษาหลากหลายรูปแบบ จะเห็นว่าดีเอ็นเอของมนุษย์สามารถทำนายโลกได้ว่า แนวโน้มจะมีความเสี่ยงเป็นโรคอะไร จะช่วยลดงบประมาณประเทศได้ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เอไอมาประเมินผล เก็บตัวอย่าง และข้อมูล 

ส่วนการนำเทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องของโรงงานอุตสาหกรรม เอไอจะมามีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก จะต้องพัฒนาเครื่องจักร เครื่องยนต์ให้ฉลาด สามารถพยากรณ์ได้ว่าเครื่องจักรมีปัญหาตรงไหนก็สามารถเข้าไปซ่อมได้ พร้อมใส่ระบบเซ็นเซอร์เข้าไปในศูนย์ควบคุม จะช่วยลดวิศวกรและลดอุบัติเหตุลงได้ และอีกขั้นคือ การให้เอไอคุยกันเองสู่กระบวนการสื่อสารระหว่างเอไอด้วยกัน จะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ เข้ามาช่วยเสริม ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากเห็น คือ ไทยแลนด์ 4.0

ทั้งนี้ ปตท. ได้ปรับโครงสร้าง บริษัท เมฆา วี จำกัด (MEKHA V) เพื่อรองรับการลงทุน AI & Robotics ตามแผนกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ของ ปตท. ซึ่งจะทำหน้าที่ผลักดันธุรกิจ AI & Robotics ในอุตสาหกรรมต่างๆ และให้บริการทั้ง Cloud, Digital platform และ application รวมถึง Energy อย่างครบวงจร

นายอรรถพล กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากรัฐบาล คือ พื้นฐานที่สำคัญที่ประเทศไทยยังขาด คือ ชิป เพราะไทยไม่มีโรงงานผลิตชิปอย่างจริงจัง จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนธุรกิจในการทำชิป และสุดท้ายอยากฝากประเด็นของ Cybersecurity มีความสำคัญ เพราะปัจจุบันการแฮกข้อมูลเกิดขึ้นง่าย ดังนั้น การแก้ปัญหาให้ทันต่อสถานการณ์จึงสำคัญ