ใครเป็นใคร? ร่วมโต๊ะดินเนอร์ "นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน"
ทำความรู้จักผู้นำองค์กรธุรกิจชั้นนำและมหาเศรษฐีไทย ที่รวมตัวแสดงความยินดีและร่วมโต๊ะดินเนอร์นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน
หลังจากหลายสื่อเผยแพร่ข่าวที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพผ่าน X (ทวิตเตอร์) @Thavisin ถ่ายรูปร่วมกันหลังร่วมรับประทานอาหารค่ำมื้อพิเศษ พร้อมรับช่อดอกไม้แสดงความยินดี จากบรรดาผู้นำองค์กรธุรกิจชั้นนำและมหาเศรษฐีไทยในหลายอุตสาหกรรม โดยที่เศรษฐาระบุถึงดินเนอร์มือนี้ว่าเป็นโอกาสได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ และมีประโยชน์มากกับการพัฒนาประเทศ พร้อมขอบคุณดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย และแขกทุกท่านที่มาร่วมแสดงความยินดี
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับบุคคลที่ปรากฏบนภาพที่เศรษฐาโพสต์เพิ่มขึ้นว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง และมีบทบาทต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร โดยเริ่มจากขวาไปซ้าย
คนแรกเป็นบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะเจ้าของทีมฟุตบอลเลสเตอร์และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร้านดิวตี้ฟรียืนหนึ่งของไทย อย่างอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้เป็นทายาทคนเล็กสุดของ วิชัย (ผู้ล่วงลับ) และเอมอร ศรีวัฒนประภา ซึ่งแม้ครอบครัวศรีวัฒนประภาจะผ่านเหตุการณฑ์ท้าทายมามายในช่วงที่ผ่านมา แต่ขณะนี้อัยยวัฒน์ก็ยังเป็นผู้เศรษฐีอันดับ 8 จากการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีพันล้านของไทยรอบล่าสุด ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อีกหนึ่งอภิมหาเศรษฐีไทย ที่มาร่วมวงดินเนอร์นายกฯ ครั้งนี้ด้วย คือศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ทายาทจากตระกูลผู้มั่งคั่งอันดับหนึ่งของไทยที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเขาเป็นบุตรคนที่ 4 ของเจ้าสัวธนินท์ และคุณหญิงเทวี เจียรวนนท์
ถัดจากนั้นคือเจ้าพ่อธุรกิจก่อสร้าง ปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร บมจ. ช.การช่าง ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท (วันที่ 28 ส.ค. 2566) และเป็นผู้รับเหมาสารพัดโครงการ Mega Project ทั้งโครงการก่อสร้างสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) โครงการรถไฟฟ้า (BTS) โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการปรับปรุงสนามบินดอนเมือง ฯลฯ
ส่วนบุคคลที่ยืนติดทางด้านซ้ายของนายกฯ เศรษฐา เป็นบุคคลที่รู้จักกันอย่างดีในแวดวงการเงินธนาคารและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย คือดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ที่ขณะนี้เป็นประธานกรรมการ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ และกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ และยังครองตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ เช่น ที่ปรึกษา สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยดินเนอร์มื้อนี้ได้ควงคู่มากับภรรยาคือชลีกร สุรพงษ์ชัย (ยืนตรงกลางระหว่างปลิว ตรีวิศวเวทย์และศุภชัย เจียรวนนท์)
ต่อมาคือสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมถึงประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ บมจ. ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดกว่า 3.4 พันล้านบาท (วันที่ 28 ส.ค. 2566) โดยเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่องานอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์เมลามีนเครื่องใช้ในครัวเรือน
ถัดมาคือหนึ่งในนักธุรกิจหญิงชั้นนำคือ จีรพร จารุกรสุกล ซึ่งเธอเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ที่ดำเนินกิจการใน 4 ธุรกิจหลักที่สำคัญ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน ตลอดจนธุรกิจดิจิทัล ปัจจุบัน จีรพร ยังเป็นผู้มั่งคั่งอันดับ 37 ของไทยด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิถึง 955 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่ยืนติดกันคือ หมอมิ้ง-นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เป็นหนึ่งใน มันสมอง วางกลยุทธ์ทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และยังรู้เรื่องทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดี ถูกวางตัวให้เข้ามาเป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พรหมมินทร์ เคยช่วยงานการเมืองตั้งแต่ยุคไทยรักไทย เคยเป็นทั้งอดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.พลังงาน และยังเคยเป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ของ ทักษิณ ชินวัตร มาอย่างยาวนาน
เลขาธิการนายกฯ ต้องคอยช่วยดูแลงาน กลั่นกรอง วาระสำคัญต่างๆก่อนที่จะถึงนายกฯ จากการทำงานในอดีต บวกประสบการณ์งานการเมือง งานในทำเนียบรัฐบาล จึงไม่แปลกใจที่ เศรษฐา ทวีสิน ต้องการทีมงาน ไว้ใจใด้ มาช่วยงาน เปรียบเป็นเหมือน นายกฯน้อย เป็นหนึ่งในเงาติดตามตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง
ต่อด้วยอีกหนึ่งบุคคลสำคัญในแวดวงการเงินธนาคารคือ อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์
ถัดมาคือ อีกหนึ่งนักธุรกิจแถวหน้า อย่างฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ (ผู้ผลิตเบียร์ช้าง สุราแบรนด์ต่าง ๆ เครื่องดื่มและอาหาร) และเป็นทายาทคนที่ 3 จาก 5 คนของคุณหญิงวรรณ (ผู้ล่วงลับ) และเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งกลุ่ม TCC ซึ่งป้จจุบันเป็นผู้มั่งคั่งอันดับ 3 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิถึง 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
และบุคคลท้ายสุด เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เป็นเพื่อนสนิท อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร มาตั้งแต่สมัยเรียน คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทั่งไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกัน แม้จะคนละคณะแต่ก็เจอกันบ่อยตามประสาคนคุ้นเคย คณาพจน์ ประกอบธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ก่อนจะหันหน้าเข้าสู่ ถนนการเมืองครั้งแรก เคยลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อ และเป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติด้วย ก่อนที่พรรคจะถูกยุบในเวลาต่อมา
ในวันนี้ คณาพจน์ คนรุ่นใหม่ มีมุมมองใหม่ๆทางด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรม เทคโนโลยี ได้เข้ามาช่วยงาน เศรษฐา เต็มตัว มีภาพปรากฎไปร่วมงาน ลงพื้นที่ติดตามเศรษฐาไปหลายแห่ง
ถึงจุดนี้คงรู้แล้วว่าบุคคลที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์ครั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้มั่งคั่งของไทยและบุคคลชั้นนำในแวดวงธุรกิจที่นับว่าแต่ละคนต่างไม่ธรรมดาจริง ๆ